วิทยุหลัก-ชุมชนกระเตื้องขยายตัว 5% ชี้ราคายาง-ปาล์ม ปัจจัยสำคัญหนุน ส่งผลให้นายทุนทุ่มโฆษณามากขึ้น ทั้งกลุ่มโรงแรม-ร้านอาหาร-อสังหาริมทรัพย์-ค้าปลีก-ยานยนต์-ร้านยาง พร้อมเร่งปรับตัวเข้ายุคดิจิทัล-โซเชียลมีเดีย สถานีสู้ไม่ถอยงัดกลยุทธ์แข่งเดือด
แหล่งข่าวจากผู้บริหารสถานีวิทยุหลัก และนักสื่อสารมวลชน จ.พัทลุง กล่าวว่า ภาพรวมวิทยุคลื่นหลักและสถานีวิทยุชุมชนในภาคใต้ช่วงครึ่งปีแรก 2561 มีการขยายตัวเติบโตขึ้นประมาณ 5% ปัจจัยสำคัญมาจากสถานีวิทยุได้ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย ผู้ฟังสามารถรับฟังได้หลายช่องทาง เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค โดยยุคนี้เป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนสถานีวิทยุอย่างขนานใหญ่เพื่อให้สามารถอยู่รอด ในขณะที่ผู้บริโภคและโฆษณาจะได้เปรียบ ขณะที่อัตราราคาสปอตโฆษณายังไม่มีการปรับตัว ซึ่งวิทยุชุมชนราคาอยู่ที่ 30-50 บาท/ครั้ง ส่วนวิทยุหลักอยู่ที่ 50-80 บาท/ครั้ง
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ปัจจัยสำคัญที่หนุนธุรกิจวิทยุภาคใต้เติบโตในปี 2561 คือ สภาพเศรษฐกิจค่อนข้างดี สะท้อนมาจากราคายางพารา และปาล์มน้ำมันที่ทรงตัว ไม่ตกลงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสถานการณ์ราคาข้าวที่มีการขยับราคาขึ้น”
นางสาวอ่อนอรุณ สุรัตน์ หุ้นส่วนและผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดับเบิ้ล กาย มีเดีย เจ้าของวิทยุชุมชน 3 สถานี จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาวะธุรกิจวิทยุชุมชน จ.สงขลา มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น หลังจากครึ่งปีแรก 2561 (ม.ค.-มิ.ย.) ยังในภาวะทรงตัว เนื่องจากปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การจัดกิจกรรมในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีโฆษณามากขึ้น โดยโฆษณาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร รองลงมาเป็น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก ยานยนต์ และร้านยาง เป็นต้น ขณะที่บางสถานียังประสบภาวะขาดเงินทุน
โดยภาพรวมสถานีวิทยุชุมชน จ.สงขลา ระยะแรกมีประมาณ 100 สถานี ต่อมาบางสถานีได้ยุติสถานีและขายต่อ ซึ่งมีประมาณ 10-20% โดยส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นสถานีประเภทบริการธุรกิจ ได้แก่ บริการธุรกิจ บริการสาธารณะ และบริการชุมชนของนโยบายสถานีวิทยุชุมชน
สำหรับ หจก.ดับเบิ้ล กาย มีเดีย มีทั้งหมด 3 สถานี ได้แก่ สถานี 93 แมส เอฟเอ็ม ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ จากกลุ่มเป้าหมายหลักวัยรุ่นและวัยทำงาน สถานี 100 แฟนลูกทุ่ง เอฟเอ็ม และสถานี 104.25 มายด์ เอฟเอ็ม ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ดี เนื่องจากได้ดึงกลยุทธ์มาใช้ คือ ความเป็นมืออาชีพยาวนานกว่า 20 ปี ดีเจ.มีใบประกาศและมีประสบการณ์ผ่านงานมาจากสถานีวิทยุคลื่นหลัก รวมถึงมีกลุ่มผู้ฟังที่เหนียวแน่น และปรับตัวทันต่อยุคดิจิทัล โดยได้จัดให้ระบบสามารถเข้าฟังในโซเชียลมีเดียได้ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้หลายช่องทางและทั่วถึง