ไทยเสนอเมียนมาเปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 รับการคมนาคมเพิ่ม

วันนี้ (17 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (ทีบีซี) อ.แม่สาย จ.เชียงราย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้จัดให้มีการประชุมร่วมครั้งที่ 93 ขึ้น ณ ห้องประชุมโรงแรมซานหมุ่นอาข่า จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่สาย โดยฝ่ายไทยมี พ.อ.กิดากร จันทรา ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย–เมียนมา (ทีบีซี) อ.แม่สาย ฝ่ายไทย และ พ.ท.เมี้ยดเลนหม่อง ผบ.กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 328 ในฐานะประธานทีบีซีฝ่ายเมียนมา จ.ท่าขี้เหล็ก นำคณะกรรมการทั้ง 2 ฝ่ายเข้าร่วมซึ่งที่ประชุมมีการเสนอความร่วมมือกันหลายเรื่อง โดยฝ่ายไทยส่งเสริมการลาดตระเวนตามแนวชายแดนและแก้ไขปัญหาข้ามชาติ เช่น ยาเสพติด ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ ลักลอบตัดไม้และก่อการร้าย เป็นต้น

นอกจากนี้ทางทีบีซีฝ่ายไทยได้ขอให้ทางการเมียนมาได้เปิดใช้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ข้ามลำน้ำสายระหว่าง อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ด้วย เนื่องจากในปัจจุบันสะพานแห่งแรกมีการคมนาคมมากขึ้นจนทำให้การจราจรแออัด ขณะที่สะพานแห่งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันใช้เพื่อการขนส่งสินค้าเท่านั้นแต่หากเปิดให้ประชาชนสามารถเดินทางไปมาได้ก็ช่วยแก้ไขปัญหาความแออัดดังกล่าวได้ต่อไป โดยฝ่ายไทยพร้อมจะเปิดสะพานทางฝั่งไทยเพื่อรองรับความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งทางทีบีซีฝ่ายเมียนมาได้รับเรื่องไว้เพื่อนำไปเสนอให้ทางการเมียนมาพิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว

ขณะเดียวกันทางทีบีซีฝ่ายไทยแจ้งว่าในปัจจุบันพื้นที่ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย มีปัญหาขยะมูลฝอยที่ถูกทิ้งลงมาในลำน้ำสาย จนทำให้ขยะบางส่วนลอยเข้าสู่คลองชลประทานและมีเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ดังนั้นเพื่อเป็นการบำรุงรักษาแม่น้ำสายร่วมกันจึงขอความร่วมมือทีบีซีทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้กับราษฎร์ที่อาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำสาย งดเว้นการทิ้งขยะสิ่งปฏิกูลลงมาในแม่น้ำสาย

ทั้งนี้ช่วงท้ายการประชุมทางทีบีซีฝ่ายไทยได้ขอบคุณชาวเมียนมาที่ช่วยเหลือ จากเหตุการณ์ทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาดามีจำนวน 13 คน ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากฝ่ายไทยได้ประสานขอความร่วมมือฝ่ายทีบีซีหน่วยงานและประชาชนชาวเมียนมาช่วยสร้างฝายชลอน้ำที่จะมีน้ำไหลเข้าสู่ฝั่งไทย และเปลี่ยนทิศทางของน้ำไม่ให้ไหลไปทางถ้ำหลวง ปรากฎว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ฝ่ายไทยจึงขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งด้วย