เกษตรกรเหนือโล่ง”เบบินคา”กระทบน้อย

แฟ้มภาพ

ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานว่า ข้อมูลสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ล่าสุด (21 ส.ค. 61) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากพายุโซนร้อนเบบินคา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่ 23 ก.ค.-10 ส.ค. 61 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน 8 จังหวัด 46 อำเภอ 172 ตำบล 680 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,028 ครัวเรือน 40,101 คน

นายสมบูรณ์ ดาศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนโยบายรัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมได้ หลายพื้นที่ยังท่วมอยู่ เบื้องต้นประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 600,000 ไร่ทั่วประเทศ มีพื้นที่ทำประกันภัยข้าวนาปี 200,000 ไร่ จากพื้นที่ที่ทำประกันภัยทั้งหมด 29 ล้านไร่ หากเกษตรกรทำประกันไว้จะมีความคุ้มครอง 1,260 บาท/ไร่

นายประเสริฐ ดอยลอม เกษตรจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า มีพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเบบินคา 12 อำเภอ 27,000 ไร่ เป็น นาข้าว 10,400 ไร่ พืชไร่ เช่น ข้าวโพดและถั่วลิสง 15,000 ไร่ พืชสวน 1,600 ไร่ ด้านปศุสัตว์ได้รับความเสียหาย 5 อำเภอ 6,700 กว่าตัว ด้านประมงมีบ่อปลาเสียหาย 10 อำเภอ 1,950 บ่อ พื้นที่ 516 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย

นายธานินทร์ ถิตตยานุรักษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ระยะเฝ้าระวัง มีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ยังไม่วิกฤต มีรีสอร์ตส่วนน้อยที่ได้รับผลกระทบ สำหรับความเสียหายภาคการเกษตรและธุรกิจ คาดว่าไม่ถึงหลักล้านบาท

นายภานุวัฒน์ พุทธเกสร นายอำเภอบ่อไร่ จ.ตราด กล่าวว่า อ.บ่อไร่ มีประชาชนเดือดร้อน 500 ครอบครัว 1,500 คน รวมถึงสวนทุเรียน เงาะ และมังคุด ถูกน้ำท่วมขังแต่ไม่เสียหายมากนัก แต่เตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง เดือน ก.ย. และ ต.ค.เป็นฤดูฝนที่มีปริมาณน้ำมาก

นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ล่าสุดพบพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 12 อำเภอ 17 ตำบล ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะนาข้าว คาดว่ามีพื้นที่ถูกน้ำท่วมราว 420 ไร่ อาจเสียหายไม่ถึง 100 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย เนื่องจากน้ำท่วมราว1-2 วัน นาข้าวจึงไม่ได้รับความเสียหาย

ADVERTISMENT