“เชียงราย”จัดใหญ่งานชา-กาแฟ ชูอัตลักษณ์เมืองดึงคนเที่ยวขุนเขาฤดูหนาว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ที่โรงแรมเดอะ ริเวอรี บาย กะตะธานี อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตร จ.เชียงราย นายนาวิน อินทจักร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูง จ.เชียงราย นายธีรวัฒน์ วงศ์วรทัต นายกสมาคมกาแฟและชาไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “เชียงราย อาเซียน คอฟฟี แอนด์ ที 2561”

ทั้งนี้ มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย.2561 นี้ ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ ภายในงานมีการสาธิตการชงชาโดยแชมป์ชงชาไทย ระดับประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และชิมกาแฟชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศไทย ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

นายประจญ เปิดเผยว่า จ.เชียงราย ถือเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์อะราบิก้ามากที่สุดในประเทศไทย และยังมีแหล่งปลูกตามขุนเขาต่างๆ ที่ดีที่สุดอีกด้วย รวมทั้งยังเป็นแหล่งชาพันธุ์ดี ดังนั้นทางจังหวัดจึงได้พยายามส่งเสริมอย่างเต็มที่ โดยมีแนวทางจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน เช่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สมาคมกาแฟและชาไทย ฯลฯ ผลักดันให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งชาและกาแฟ ซึ่งครั้งล่าสุดได้มีการจัดงานเดียวกันนี้ที่ จ.เชียราย ช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

และครั้งนี้จึงจะไปจัดที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชิมและชมเมื่อประทับใจ ก่อนจะเดินทางไปชมถึงแหล่งปลูกตามขุนเขาต่างๆ หรือตามไปชิมถึง จ.เชียงราย โดยเฉพาะฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวนี้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมทั้งผลิตภัณฑ์ชา กาแฟ รวมไปถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป

นายสุขชัย กล่าวว่าปัจจุบัน จ.เชียงราย มีพื้นที่ปลูกกาแฟอะราบิก้าประมาณ 38,000 ไร่ ผลผลิตประมาณ 4,355 ตัน ชามีพื้นที่ปลูกประมาณ 53,436 ไร่ ผลผลิตประมาณ 32,010 ตัน การจัดงานครั้งนี้นอกจากจะแสดงถึงศักยภาพของชาและกาแฟเชียงรายแล้ว ยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ซึ่งได้พระราชทานพระราชดำริให้ส่งเสริมการปลูกกาแฟ และพระราชทานกาแฟต้นแรกให้กับชาวเขาได้นำไปปลูกจนแพร่กระจายไปทั่วภาคเหนือ

นอกจากนี้ยังเป็นการเทิดพระเกียรติและสืบสานพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ส่งเสริมการปลูกกาแฟในป่าชุมชนเพื่อสร้างรายได้ให้กับราษฎรชาวเขาพื้นที่ป่าต้นน้ำ ลดปัญการตัดไม้ทำลายป่า ลดการทำไร่เลื่อนลอย ดังนั้นภายในงานจึงจะมีนิทรรศการความเป็นมาของชาและกาแฟ สาธิตการชงชาและกาแฟรูปแบบต่างๆ การนำกาแฟจากแหล่งผลิตที่เรียกว่าเข็มขัดกาแฟจาก 5 ประเทศ

นายนาวิน กล่าวว่า เชียงรายมีแหล่งปลูกกาแฟหลากหลาย เช่น ดอยวาวี ดอยช้าง อ.แม่สรวย ดอยปางขอน อ.เมือง และยังมีที่ อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย ฯลฯ ปัจจุบันยังกระจายไปยังหลายอำเภอหรือเกือบครึ่งหนึ่งของจังหวัดเป็นแหล่งปลูกแล้ว ทำให้แต่ละแห่งมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง ดังนั้นภายในงานจึงจะมีการจัดแสดงเรื่องราวของแต่ละขุนเขาเพื่อให้ผู้คนได้รับทราบความหลากหลายด้วย