ธุรกิจบันเทิงสงขลาวูบ 50% จี้รัฐผ่อนกฎ

ยอดนักท่องเที่ยววูบ - อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในอดีตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งขายสินค้าราคาถูก และแหล่งบันเทิงที่คนไทย และต่างชาตินิยม แต่ปัจจุบันจากปัญหาความไม่สงบ และรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนไป ส่งผลกระทบให้คนไปท่องเที่ยวลดลง

ธุรกิจท่องเที่ยวหาดใหญ่ซบ ผับ-บาร์-โรงแรมรายได้หดกว่า 50% ราคายาง-ปาล์มดิ่งต่อเนื่อง วอนรัฐผ่อนปรนกฎหมายขยายเวลาเปิดทำการ

นายเจียร แก้วกิติชัย ผู้จัดการคิส แชนแนลผับ ธุรกิจบันเทิงในเครือคิส เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาวะธุรกิจบันเทิง ผับ เธค คาราโอเกะ ห้องอาหาร และโรงแรม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อยู่ภาวะถดถอยมาประมาณ 2 ปีแล้ว และยอดขายตกไปประมาณ 50% จากเดิมที่มีรายได้ประมาณ 300,000 บาท/วัน/ร้าน นอกจากนี้ ปริมาณของสถานประกอบการเองลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น สถานประกอบการประเภทคาราโอเกะเหลือประมาณ 40-50 แห่ง ผับเหลือ 30 แห่ง จากเดิมช่วงเศรษฐกิจเติบโตมีการตั้งมากกว่า 100 แห่ง

ปัจจัยสำคัญที่สุดของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คือ 1.มาตรการของรัฐที่มีมาก โดยกฎหมายบังคับใช้ไม่เอื้ออำนวยกับเมืองท่องเที่ยว สถานบริการจำเป็นต้องปิดเวลาเที่ยงคืนจนถึง 01.00 น. ต่างกับประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวเปิดบริการ 24 ชั่วโมง เช่น ที่รัฐยะโฮร์บาห์รู ฯลฯ ระหว่างชายแดนมาเลเซีย สิงคโปร์ ทำให้ทั้งชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และชาติอื่น ๆ เข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก

2.เรื่องการอำนวยความสะดวกที่ด่าน โดยเฉพาะรถทัวร์ รถบัส รถตู้ จากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ที่เข้ามาท่องเที่ยวยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลามีปัญหามาก

3.ประเทศมาเลเซียประสบปัญหาเศรษฐกิจ มีหนี้สาธารรณะปริมาณมาก ทำให้ชาวมาเลเซียชะลอตัว ระงับการท่องเที่ยวไปโดยเฉพาะคนจีนในมาเลเซียที่มีกำลังซื้อสูงมาก อีกทั้งมาเลเซียประสบปัญหาเหมือนกับประเทศไทย คือ ยางพารา ปาล์มน้ำมันราคาตกต่ำเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรเช่นกัน ส่งผลกระทบหนักในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา รอยต่อแนวพรมแดนไทย มาเลเซีย รัฐเกดะห์

“นอกจากนี้ สินค้าราคาถูกต่าง ๆ ที่เดิมเคยขายเฉพาะที่ และ อ.หาดใหญ่เองถูกกระจายไปขายยังจังหวัดอื่น ๆ ความเจริญต่าง ๆ ทำให้คนจังหวัดใกล้เคียงที่เคยเข้ามาท่องเที่ยว ช็อปปิ้งที่ อ.หาดใหญ่เป็นประจำ เช่น จ.พัทลุง จ.สตูล จ.ตรัง จ.นครศรีธรรมราช ไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังหาดใหญ่อีก” นายเจียรกล่าว

นายศิวัฒน์ สุวรรณวงศ์ นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า โรงแรมหาดใหญ่เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่มาเลเซียได้รัฐบาลใหม่ เห็นได้จากเทศกาลต่าง ๆ เช่น รายอฮัจญี และวันชาติมาเลเซีย ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวค่อนข้างแน่น ทำให้เกิดการเพิ่มปริมาณห้องพัก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ 9,000 ห้อง ขยายตัวขึ้นเป็น 13,000 ห้อง รวมถึงห้องพักนอกระบบอีกจำนวนมาก ทำให้ในช่วงวันปกติมีโอเวอร์ซัพพลาย โดยมีปริมาณคนเข้าพักในวันธรรมดาเพียง 50%

ทั้งนี้ โรงแรมย่านดาวน์ทาวน์ยังเป็นที่ต้องการของชาวมาเลเซีย โดยเฉพาะวันสุดสัปดาห์มีชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยว ในขณะเดียวกัน พื้นที่ที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นบริเวณด่านพรมแดนไทย มาเลเซียราว 3-5% แต่กิจการโรงแรมในหาดใหญ่จะให้ดีเหมือนกับหลายปีก่อนคงไม่ได้จำเป็นต้องช่วยกันผลักดัน ขณะนี้ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ได้ร่วมกันสร้างสตอรี่ ตลอดจนสรรหาแพ็กเกจใหม่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

นายกมล สุทธิวรรณโนภาส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา และกรรมการผู้จัดการโรงแรมไชน่าการ์เด้น หาดใหญ่ เปิดเผยว่า เมื่อหมดช่วงเทศกาลต่าง ๆ หาดใหญ่จะเข้าสู่ภาวะนิ่งเช่นเดิม โดยห้องพักจะเหลือปริมาณมาก และจากการสำรวจตามร้านค้าแผงลอยย่านดาวน์ทาวน์ เทศบาลนครหาดใหญ่ ประเภทเสื้อผ้า สินค้า รวมถึงร้านอาหารต่างตอบรับเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงวันปกติแทบจะขายไม่ได้ จะขายได้ในวันเทศกาลและวันหยุดสุดสัปดาห์ของชาวมาเลเซียและชาวไทย จึงพอมีรายได้มาชดเชยกัน