“ธปท.” ชี้เศรษฐกิจใต้ Q3-Q4 “เกษตร-ท่องเที่ยว-อุตสาหกรรม” ชะลอตัวต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2561) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสันติ รังสิยาภรณ์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคใต้ แถลงสรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 3 ปี 2561

นายสันติ รังสิยาภรณ์รัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ไตรมาสที่ 3 ปี 2561 มีการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปี 2560 แต่ชะลอลงจากไตรมาส 2 ปี 2561 โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าสำคัญภาคใต้หดตัว จากผลของราคาที่ลดลงเป็นปัจจัยสำคัญ ขณะเดียวกันผลผลิตทางการเกษตรก็ชะลอตัวและราคายังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้รายได้เกษตรกรยังหดตัวต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่ทำให้การบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวด้วย

เช่นเดียวกับภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรมลดลง ทั้งอาหารทะเลกระป๋อง ถุงมือยาง ยาพาราแปรรูป อาหารทะเลแซ่แข็ง ไม้ยางพาราแปรรูป และน้ำมันปาล์มดิบก็หดตัวด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงการท่องเที่ยวชะลอตัวจากนักท่องเที่ยวจีนลดลง ผลกระทบจากเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 และนักท่องเที่ยวรัสเซีย ลดลงจากค่าเงินรูเบิลอ่อนค่า หลังจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหรัฐ ด้านนักท่องเที่ยวมาเลเซีย เอเชีย (ไม่รวมจีน) และยุโรปขยายตัว หากพิจารณาตามพื้นที่แล้วการท่องเที่ยวพบมีขยายตัวในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ แต่ฝั่งอันดามันชะลอลงมาก และฝั่งอ่าวไทยหดตัว

ผลผลิตเกษตรขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.0 แต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อน และราคาสินค้าเกษตรสำคัญภาคใต้หดตัวร้อยละ 16.5 โดยผลผลิตปาล์มน้ำมันลดลง เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนราคาปาล์มน้ำมันลดลงสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก และสต็อกน้ำมันปาล์มดิบไทยยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้รายได้เกษตรกรหดตัว

ขณะที่ผลผลิตยางพารายังขยายตัวตามพื้นที่เปิดกรีดใหม่และสภาพอากาศเอื้ออำนวย โดยเฉพาะราคายางพาราลดลง ผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างจีน และสหรัฐ และสต็อกยางเซี่ยงไฮ้ที่อยู่ในระดับสูง ในส่วนของผลผลิตกุ้งขาวลดลง ตามการลงลูกกุ้งที่ลดลง แต่ราคากุ้งขาวลดลงตามปริมาณอุปทานในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะจากอินเดีย


นายสันติกล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจภาคใต้ ไตรมาส 4 ปี 2561 คาดว่าน่าจะชะลอตัว โดยมีปัจจัยเสี่ยงรายได้เกษตรกรอยู่ในระดับต่ำจากด้านราคาเป็นสำคัญ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และผลของปัจจัยลบต่างๆ ต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีน