สมาคมโรงสีใต้โวยโรงงานอาหารสัตว์ลอบนำเข้า “รำ” หวั่นราคาข้าวดิ่ง

สมาคมโรงสี-ชาวนาภาคใต้โวยโรงงานผลิตอาหารสัตว์-ฟาร์มเลี้ยงหมู-ไก่รายใหญ่ลักลอบนำเข้า “รำข้าวละเอียด” ราคาถูก 6 บาท/กก. ผ่านพรมแดนไทย-มาเลเซียเดือนละกว่า 4,000 ตัน มาใช้เป็นวัตถุดิบผสมอาหารสัตว์ หวั่นทำราคาข้าวเปลือกทั่วประเทศร่วงหนัก

แหล่งข่าวจากเจ้าของอุตสาหกรรมโรงสีข้าวรายใหญ่ภาคใต้เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการลักลอบนำเข้ารำข้าวละเอียดเข้ามาทางรถบรรทุกผ่านพรมแดนไทย-มาเลเซียบริเวณพื้นที่จังหวัดสงขลาหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งนำเข้ามาประมาณ 2,000-4,000 ตัน/เดือน ก่อนกระจายส่งต่อไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ตามออร์เดอร์

โดยผู้ซื้อมีทั้งโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์ ซึ่งจะนำรำข้าวละเอียดส่วนใหญ่ไปผสมทำอาหารสุกร อาหารไก่ และบางส่วนเป็นอาหารกุ้ง เป็นต้น ทั้งนี้ ราคานำเข้ารำข้าวละเอียดจากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 6 บาท/กก. หรือกว่า 6,000 บาท/ตัน ซึ่งถูกกว่าราคาในประเทศไทยนายลิขิต เลขาพันธ์ เลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวและชาวนาภาคใต้ เปิดเผยว่า การนำเข้ารำละเอียดจากต่างประเทศไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2561 แต่เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 ครั้งนั้นมีการนำเข้าในปริมาณมากจนส่งผลกระทบต่อโรงสีข้าว และชาวนาภาคใต้มาแล้ว

โดยราคารำละเอียดภายในประเทศได้ทยอยปรับลดลงมาจากกว่า 9 บาท/กก. หรือกว่า 9,000 บาท/ตัน ลงมาเหลือ 6 บาท/กก. และในที่สุดลดลงถึง 3-4 บาท/กก. หรือ 3,000-4,000 บาท/ตัน

ดังนั้นหากภาครัฐยังปล่อยให้มีการนำเข้ามาเช่นนี้ อนาคตจะส่งผลกระทบต่อชาวนาภายในประเทศทั้งหมด ไม่ต่างกับนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศจนส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว

แนวโน้มหากจะมีการนำเข้ามาอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายปี 2561 อาจส่งผลกระทบจนรำละเอียดปรับราคาต่ำลงไปเหลือ 3-4 บาท/กก. มูลค่าที่หดหายไปประมาณ 9 ล้านบาท/เดือน จากโรงสีข้าวทั่วภาคใต้ ประมาณ 100 โรง โดยส่วนหนึ่งจะมีโรงสีขนาดใหญ่ ผลผลิตประมาณ 300-250 ตัน/วัน ท้ายที่สุดจะส่งผลกระทบต่อชาวนาทันที

สำหรับปัจจุบันรำละเอียด ราคาหน้าโรงสีข้าว ประมาณ 9.50 บาท/กก. หรือประมาณ 9,500 บาท/ตัน หน้าโรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ประมาณ 9.90 บาท/กก. ประมาณ 9,900 บาท/ตัน ส่วนราคานำเข้าไม่น่าจะเกิน 7 บาท/กก. หรือประมาณไม่เกิน 7,000 บาท/ตัน มีส่วนต่างกันมาก แล้วมาทำการกดดันทางด้านราคา

“การนำเข้ารำละเอียดจะมีผลต่อดีมานด์ซัพพลาย ทำให้รำละเอียดในพื้นที่ภาคใต้ราคาตกต่ำ แล้วจะสะท้อนผลไปยังราคาข้าวเปลือกของชาวนาทันที โดยข้าวเปลือกราคาอาจจะไหลลงถึง 400-500 บาท/ตัน รำละเอียดที่นำเข้ามาราคาถูก เพราะบางประเทศจะบริโภครำละเอียดน้อย ไม่มีการทำฟาร์มสุกรและฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ ทำให้วัตถุดิบรำละเอียดถือเป็นส่วนเหลือที่ไม่ใช้ในต่างประเทศ ต่างกับประเทศไทยซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงสุกรและฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้มีฟาร์มสุกร ฟาร์มไก่รายใหญ่อยู่จำนวนมาก” นายลิขิตกล่าว