ปิดฉากมัลดีฟส์เมืองไทย! สั่งรื้อเกาะจิกรีสอร์ต จันทบุรี ภายใน 90 วัน เหตุล้ำทะเล

วันที่ 7 พ.ย. นายพงษ์พัฒน์ วงษ์ตระกูล รอง ผวจ.จันทบุรี นำชุดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ฉลามขาว นำโดย นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (จ.ระยอง) เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 19 ,ตำรวจ , ฝ่ายปกครอง และเจ้าพนักงานที่ดิน จ.จันทบุรี ร่วมกัน สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ในการบุกตรวจสอบ เกาะจิกรีสอร์ต บนเกาะกลางทะเลปากแม่น้ำเวฬุ ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ฉายา มัลดีฟส์เมืองไทย

การลงพื้นที่บุกตรวจสอบในครั้งนี้ ทางกำลังเจ้าหน้าที่ต้องลงเรือสปีดโบ๊ท กรมเจ้าท่า ในการล่องข้ามแม่น้ำเวฬุไปยังเกาะจิก ที่อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือ บ้านอ่างกระป่อง ม.4 ต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด ผ่านหมู่บ้านไร้แผ่นดิน ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ระยะทางประมาณ 21 ไมล์ทะเล

จากการบุกเข้าตรวจสอบในรีสอร์ตหรูบนเกาะจิกในครั้งนี้ พบ นายเฉลิมพล แซ่แต้ อายุ 28 ปี ชาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี เป็นผู้ดูแลและคนงานอีก 2 คน เบื้องต้นพบ รีสอร์ตดังกล่าว มีการปลูกสร้าง อาคารยื่นออกไปในทะเล จำนวน 9 หลัง และตัวอาคารที่อยู่ในพื้นที่ดิน จำนวน 5 หลัง รวมพื้นที่ 97 ตารางวา

นอกจากนี้ขณะเข้าตรวจสอบภายในห้องพัก พบว่าเพิ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักและทำการเช็กเอาต์ออกไปไม่นาน มีกล่องอาหารและขวดเครื่องดื่ม ตลอดจนที่นอน ยังไม่มีการจัดเก็บทำความสะอาด

นายเฉลิมพล รับว่าเป็นผู้ดูแลรีสอร์ต และอ้างว่าเช่ารีสอร์ตดังกล่าวต่อมาจากเจ้าของที่ในราคาปีละ 5 หมื่นบาท และเปิดรับจองให้กับนักท่องเที่ยว ที่ติดต่อผ่านมาทางเฟซบุ๊ก ซึ่งภาพถ่ายที่ถูกแชร์ออกไป เป็นภาพจากนักท่องเที่ยวที่มาเข้ามาพัก จนทำให้มีรีสอร์ตแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่กล่าวถึง และเรียกขานกันว่า เป็น มัลดีฟส์เมืองไทย

ที่ผ่านมาก่อนจะปลูกสร้างอาคาร รวมทั้งสะพาน ตนได้ดำเนินแจ้งกับหน่วยงานในพื้นที่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นของป่าไม้หรือมีเอกสารสิทธิ์รุกล้ำพื้นที่ไปถึงจุดใดบ้าง

เมื่อเกิดการร้องเรียน ตนก็พร้อมรับสภาพความเสียหาย จากการรื้อถอน และยกเลิกยอดจองจากนักท่องเที่ยวทั้งหมด ที่มียอดจองเข้าพักถึงต้นปีหน้า อีกทั้งรับปากจะดำเนินการรื้อถอนให้เรียบร้อยภายใน 90 วัน ตามที่ประกาศจากกรมเจ้าท่า

เจ้าหน้าที่ ทำการตรวจสอบรีสอร์ตพบว่า มีการปลูกสร้างล่วงล้ำลำแม่น้ำและอยู่ในเขตป่าสงวน อยู่นอกเขตโฉนดที่ดิน จึงได้ทำการขออนุมัติ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ออกประกาศสั่งปิดและรื้อถอนภายใน 90 วัน พร้อมทั้งนำใบประกาศปิดไว้หน้าห้องพัก

ขณะที่นายพงษ์พัฒน์ รอง ผวจ.จันทบุรี แถลงผลปฏิบัติการในครั้งนี้ ว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจ.จันทบุรี พบว่า มีอาคารที่สร้างล้ำเข้าไปในทะเลทั้งหมดจำนวน 9 หลัง มีเนื้อที่รวม 1.83 ไร่ และ อาคารอีก 5 หลัง ที่ปลูกสร้างบนฝั่ง เนื้อที่ 1.86 ไร่

รวมเนื้อที่ที่มีการบุกรุกรวม 3.96 ไร่ ไม่มีโฉนดที่ดิน คืออยู่นอกแนวเขตโฉนดที่ดิน ไม่มีเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 เสียหายเป็นมูลค่า 51,000 บาท

จากนั้นสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี จึงได้แจ้งผลการพิจารณา ยื่นแบบแจ้งการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำ ตามคำสั่งคสช. ที่ 32 /2560 พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการ ทำการรื้อถอน สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำแม่น้ำ มีความผิดเข้าข่ายตามมาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ภายในกำหนดระยะเวลา 90 วัน หลังการประกาศ

อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งศาลปกครอง หากผู้ประกอบการประสงค์ที่จะอุทธรณ์ หรือโต้แย้งคำสั่ง สามารถยื่นอุทธรณ์หรือโต้แย้ง คำสั่งดังกล่าว ต่อผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี ภายใน 25 วัน นับตั้งแต่วันที่รับทราบคำสั่ง

 

 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์