“เชียงราย” เฟ้นแข่งขันทำอาหารเหนือต้นแบบรับท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น หวังดันยอดนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากกว่า 3 ล้านคน สร้างรายได้เข้าจังหวัดกว่า 26,000 ล้านบาท
นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน จ.เชียงรายในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประมาณ 3 ล้านกว่าคน สร้างรายได้เข้าจังหวัดประมาณ 26,000 ล้านบาท ดังนั้น ทางจังหวัดมีความจำเป็นจะต้องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลักให้มีมาตรฐานสากล ควบคู่ไปกับการยกระดับพัฒนาบุคลากรและการบริการด้านการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐาน รวมถึงมีการจัดกิจกรรมในการรองรับผู้ไปเยือนให้มากขึ้น
ดังนั้น สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนนำเกษตรกรเข้ามาร่วมขับเคลื่อนพัฒนาความปลอดภัยด้านอาหาร และเชื่อมโยงไปสู่ภาคการบริการการท่องเที่ยว สำหรับต้นฤดูหนาวนี้ได้จัดกิจกรรมรองรับ คือ การจัดงาน “ประกวดอาหารถิ่น อาหารไทย ปลอดภัย ถูกใจนักท่องเที่ยว” ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ ณ ลานโอเพ่นเลานจ์ โรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท เชียงราย อ.เมืองเชียงราย
“นอกเหนือไปจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสำคัญ เช่น ภูชี้ฟ้า ชายแดนแม่สาย ดอยตุง วัดร่องขุ่น ไร่เชิญตะวัน ฯลฯ เราจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้มากขึ้น เช่น การจัดโครงการประกวดอาหารถิ่น อาหารไทย ครั้งนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้มั่นใจในความอร่อย ความเป็นอัตลักษณ์ และความปลอดภัยจากอาหารในพื้นที่ รวมทั้งเพื่อให้ได้แหล่งเรียนรู้สถานบริการที่มีอาหารปลอดภัยมาเป็นต้นแบบให้ร้านอื่น ๆ
ทำเชียงรายให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร นำวัตถุดิบที่ผลิตจากเกษตรกรที่ปลูกพืชปลอดภัยมาใช้เป็นการช่วยสร้างรายได้ไปสู่เศรษฐกิจชุมชนต่อไปด้วย”
นายเสริฐกล่าวอีกว่า การแข่งขันจะเปิดรับสมัครคนปรุงอาหาร หรือเชฟฝีมือดีจากห้างร้านและโรงแรมต่าง ๆ เข้าร่วมทีมละ 3 คน โดยเป็นทีมที่มาจากผู้ประกอบการ 200 ร้าน ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการโครงการกรีน ล้านนา เน็ตเวิร์ค ว่า
มีการบริการอาหารที่ปลอดภัย โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทอาหารถิ่นชื่อว่า “ถิ่นล้านนา” ประเภทที่ 2 คุณสมบัติเดียวกันแต่เป็นการแข่งขันปรุงอาหารแบบไทยชื่อว่า “ไทยสไตล์” มีการคัดสรรวัตถุดิบทั้งจากคณะกรรมการและผู้แข่งขันต้องจัดเตรียมไปเอง
สำหรับทีมที่ชนะเลิศแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และรางวัลชมเชย ได้รับ 3,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรต่อไป
ด้านนายกิตติ ทิศสกุล ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย กล่าวว่า ผลศึกษาการท่องเที่ยวเมืองรองโดยการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า จ.เชียงรายเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ แต่เป็นเมืองที่สร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 และพบว่าไม่สามารถขยายจำนวนนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นได้
ดังนั้น ทางจังหวัดจึงต้องหาวิธีการให้บริการที่หลากหลายและเป็นอัตลักษณ์ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยือนและสร้างความประทับใจ ซึ่งกรณีเรื่องอาหารปลอดภัยถือว่าสร้างประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้บริโภค ผู้ประกอบการจำหน่ายและเกษตรกร เพื่อส่งเสริมให้เชียงรายก้าวไปสู่การเป็นครัวโลกต่อไป
“เชียงรายมีภาคการเกษตรกว่า 60-70% ของเศรษฐกิจทั้งจังหวัด และการจะหวังเรื่องราคาผลผลิตเพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่หากทำการเกษตรปลอดภัย หรือเกษตรอินทรีย์จะเพิ่มมูลค่าได้ ซึ่งในฐานะภาคเอกชนจึงผลักดันให้มีการนำผลผลิตของเกษตรกรไปสู่ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สปา สมุนไพร ฯลฯ เพื่อกระจายผลผลิต
และเมื่อมองไปยังต่างประเทศแล้วพบว่า การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ต่างเกรงกลัวเมนูอาหารไทย เพราะมีความหลากหลาย เทคนิคมีมากและเป็นเอกลักษณ์ มากด้วยสมุนไพร ฯลฯ จึงเป็นสิ่งที่เราควรนำมาพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง” นายกิตติกล่าว