“นีโอสุกี้” ไม่หวั่น นทท.จีนลด-เปิดสาขา 2 เชียงใหม่ จัดเทศกาลบักกุ๊ดเต๋ปั๊มยอดท้ายปี

นายณัฐพล กัปปิยจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีโอ สุกี้ไทยเรสเทอรองส์ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานีโอ สุกี้ ได้เลือกหยิบเอาเทศกาลต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกเพื่อเป็นจุดขายให้กับร้าน พร้อมสร้างความแตกต่างในตลาดสุกี้ เพิ่มตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองความแปลกใหม่ตลอดเวลา และล่าสุดได้จัดเทศกาลบักกุ๊ดเต๋ หนึ่งในเทศกาลอาหารที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล โดยจะใช้เป็นแผนการตลาดส่งท้ายปี ยกระดับเมนูให้หลากหลาย อีกทั้งลงลึกรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาลองทานได้ลิ้มลองรสชาติของบักกุ๊ดเต๋แบบต้นตำหรับสไตล์สิงคโปร์แท้ๆ

โดยจะมีบักกุ๊ดเต๋ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ แบบชาวฮกเกี้ยน เน้นเครื่องเทศยาจีนเข้มข้น แบบกวางตุ้ง และแบบแต้จิ๋ว คือ บักกุ๊ดเต๋ที่สามารถหาทานได้ในสิงคโปร์เท่านั้น โดยจุดเด่นของแบบแต้จิ๋วคือ น้ำซุปจะไม่เข้มข้นจนเกินไป มีกลิ่นหอมจากเครื่องเทศหลักอย่างพริกไทยขาว ซึ่งเป็นรสที่คนไทยคุ้นเคย จึงเหมาะที่จะนำมาพัฒนาสูตร และนำมาพัฒนาสูตรเพื่อเสิร์ฟเป็นซุปสุกี้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม เทศกาลบักกุ๊ดเต๋กลับมาในครั้งนี้ นีโอ สุกี้ ระบุว่าได้มีการทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อให้เมนูที่ออกมาคงรสชาติของบักกุ๊ดเต๋สไตล์สิงคโปร์แท้ๆ ซึ่งนอกจากการพัฒนาสูตรอาหารแล้วยังได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของชาวเปอรานากัน หรือชาวสิงคโปร์ดั้งเดิม มาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งพรีเซ็นต์เมนู ไม่ว่าจะเป็นลวดลายกระเบื้องแบบชิโนโปรตุกีส ลายของผ้าปาเต๊ะของชาวมาลายู รวมถึงชุดของพนักงานทุกคนที่ผู้บริโภคจะได้ตื่นตากับชุดประจำชาติสิงคโปร์ที่ตัดเย็บจากผ้าลายปาเต๊ะสไตล์ตัดเย็บแบบจีน นอกจากนี้ยังได้เติมเมนูสร้างสรรค์ใหม่ๆ อย่างหมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊วสไตล์สิงคโปร์ และไอซ์กะจัง น้ำแข็งไสสไตล์มลายู

ทั้งนี้ การนำเอาเทศกาลบักกุ๊ดเต๋กลับมาอีกครั้ง ถือเป็นกลยุทธ์ที่จับตามองในการกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปีอย่างนี้ เพราะนอกจากจะการันตีได้ว่าบักกุ๊ดเต๋ คือหนึ่งเทศกาลที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาโดยตลอด การลงลึกในรายละเอียดต่างๆ เพื่อนำเอามาพัฒนาปรับปรุงสูตรให้ดีขึ้น พัฒนาทั้งเมนูอาหารอื่นๆ รวมถึงกิมมิกในการพรีเซ็นต์นำเสนอเมนูสุดพิเศษ ที่จะยิ่งส่งเสริมช่วงให้เทศกาลอาหารส่งท้ายปีแบบนี้ดูคึกคักยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังสะท้อนภาพถึงความใส่ใจและความมุ่งมั่นในการยกระดับวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่นีโอ สุกี้ ตั้งใจพัฒนามาโดยตลอดอีกด้วย สำหรับเทศกาลซุปบักกุ๊ดเต๋เริ่มเสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงช่วงต้นปีหน้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่หวั่นนักท่องเที่ยวจีนลดลง ล่าสุดได้ลุยเปิดสาขา 21 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของทาง นีโอ สุกี้ ยังคงเป็นคนพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปท่องเที่ยว แม้ที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติหลักที่คุ้นเคยกับการรับประทานอาหารสุกี้ต้ม-ลวกเป็นอย่างดี แม้นักท่องท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่น้อยลงก็ตาม บริษัทได้ปรับกลยุทธ์รับนักท่องเที่ยวจีนที่ลด หันมาเจาะตลาดอื่นๆ ที่มีกำลังซื้อ

แต่นีโอ สุกี้ยังคงมองเห็นโอกาสในการเป็นตัวเลือกที่แปลกใหม่สำหรับนักชิมชาวไทยที่ชอบลองชิมร้านร้านอาหารใหม่ โดยกลยุทธ์สำคัญในการพิชิตใจลูกค้า คือ การยกระดับคุณภาพของวัตถุดิบให้ดียิ่งขึ้นเสมอ เพราะเชื่อว่าลูกค้าที่ได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ในการรับประทาานสุกี้ จะต้องประทับใจในคุณภาพ รวมถึงเมนูสร้างสรรค์และเทศกาลอาหารที่ทางร้านจัดสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ได้ลิ้มลองไม่ขาดช่วง

นอกจากนั้นยังเน้นหนักการทำโปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษสำหรับสาขาเปิดใหม่ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น และเมื่อลูกค้าประทับใจในคุณภาพและคุ้นชินกับรสชาติสุกี้สไตล์โฮมเมดของนีโอ สุกี้แล้ว สาขาเชียงใหม่ ถือเป็นสาขาหัวเมืองใหญ่ที่เป็นหนึ่งในยุทธ์ศาสตร์ในการรุกต่างจังหวัดต่อไปในอนาคตอีกด้วย

นายณัฐพล กล่าวว่า ปีนี้คาดเติบโตประมาณ 10-15% หรือมีรายได้ 330 ล้านบาท ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้มาจากการเพิ่มสาขาใหม่ และปัจจัยด้านคุณภาพ การเพิ่มเมนูให้มีความหลากหลายและแตกต่างจากคู่แข่ง สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังมีการประหยัดต้นทุนในการผลิตมากขึ้น เช่น การลดการสูญเสียจากกระบวนการผลิต