เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน สถานการณ์ราคายางพารา ทั้งน้ำยางสด และยางแผ่น มีราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือ แต่สถานการณ์ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยางยังต้องรับสภาพราคายางตกต่ำ และยากลำบาก เพราะต้องหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว ล่าสุดราคาน้ำยางสดลดลงเหลือกิโลกรัมละ 30-31 บาทเท่านั้น
ที่จุดรับซื้อน้ำยางสด ต.นาตาล่วง อ.เมือง จ.ตรัง นางสิริพัช นุ้ยชู อายุ 46 ปี เกษตรกรชาวสวนยาง กล่าวว่า ปัญหาราคายางพาราตกต่ำขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนักที่สุดแล้วในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา เพราะ ณ วันนี้ราคาน้ำยางสดเหลือกิโลกรัมละ 30 – 31 บาทแล้ว ส่วนตัวก็เดือดร้อนหนัก เพราะรายได้หดหายไปมาก โดยกรีดยางจำนวน 8 ไร่ เหลือรายได้วันละประมาณ 300 บาท ปลูกพืชผักก็ไม่พอ จะต้องส่งลูกเรียนหนังสือ และรายจ่ายในครัวเรือน พร้อมย้อนถามรัฐบาลว่าคนที่รายได้เหลือแค่วันละ 100 บาท จะยิ่งเดือดร้อนมากมายขนาดไหน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
“ขณะฝนตกก็กรีดไม่ได้ ปีหนึ่งๆสามารถกรีดได้แค่ประมาณ 100 วันเท่านั้น และราคาก็ตกอีก ขณะที่ข้าวของราคาแพงหมด รายได้ไม่พอรายจ่าย ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่รัฐบาลจะช่วยไร่ละ 1,800 บาท เพราะไม่ทั่วถึงชาวสวนยางจำนวนมากก็ไม่ได้รับ ขณะที่ลูกจ้างบางคนก็ไม่ได้รับนายจ้างไม่แบ่งให้ หรือใส่ชื่อลูก พ่อแม่ เป็นคนกรีด ทางที่ดีรัฐบาลควรช่วยเหลือด้านราคามากกว่า ให้ได้ที่ กก.ละ 50 บาท จะได้เสมอภาคกันทุกคน นอกจากนั้นยังมีชาวสวนยางหลายรายเลิกกรีดปล่อยสวนยางทิ้งร้าง เพราะไม่คุ้มค่า” นางสิริพัช กล่าว