ปิดฉากไปแล้วสำหรับการประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 36 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค. 61 เป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการธุรกิจระดับยักษ์ใหญ่ทั่วประเทศ เป็นเวทีสะท้อนปัญหาแต่ละภาค พร้อมกับระดมความคิดเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะหอการค้าเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“ประชาชาติธุรกิจ” สนทนาพิเศษกับตัวแทนหอการค้าแต่ละภาค เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง พบภาพสะท้อนทั้งในเชิงบวก เชิงลบที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อ
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
หวั่นเศรษฐกิจโลกฉุดราคาพืชผล
ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลาง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รายได้และกำลังซื้อในภาพรวมของภาคกลางช่วงปลายปีนี้ยังแผ่ว ๆ หลัก ๆ ขึ้นอยู่กับผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าว ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวอยู่ที่ 7,800-8,000 บาทต่อตัน โดยผลผลิตข้าวเริ่มทยอยออกมากในช่วงเดือนธันวาคม ถ้าราคายังทรงตัวอยู่ระดับนี้ กำลังซื้อจะดีคงไม่ได้ เพราะต้นทุนของเกษตรกรสูงอยู่แล้ว สำหรับกำลังซื้อปี 2562 ถ้าคิดในแง่บวกน่าจะกระเตื้องขึ้นบ้าง แม้เศรษฐกิจอาจไม่โตไปกว่าปีนี้
สิ่งดีคือจะเลือกตั้ง หาเสียงเงินสะพัด เศรษฐกิจรากหญ้าจะดี ของขายได้ ป้ายโฆษณา งานเลี้ยง ฯลฯ สำหรับภาคเกษตรและการค้าในปีหน้า ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน มีผลสำคัญกระทบการค้าระหว่างประเทศ กระเทือนถึงข้างล่าง กระทบการส่งออก ภาคการผลิตแย่ คนจะตกงาน จะซ้ำเศรษฐกิจฐานราก
เหนือ ศก.เริ่มฟื้น ค้าชายแดนหนุน
นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ มองว่า กำลังซื้อช่วงปลายปี 2561 ยังดี เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น เกษตรกรเริ่มมีเงินจับจ่าย เพียงแต่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัว คาดว่าปี 2562 น่าจะฟื้นเพิ่มขึ้น ส่วนการคาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้าที่รัฐบาลบอกจะเติบโตในอัตราที่ลดลง แต่คิดว่ายังมีหวัง เพราะเรื่องการค้าชายแดนในภาคเหนือยังเติบโตได้ดี และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน จะทำให้เศรษฐกิจภาคเหนือแข็งแกร่งขึ้น หากภาคการเกษตรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะยิ่งส่งผลดี
ใต้ยาง/ปาล์มดิ่ง-ทัวร์จีนหายรายได้หด
ส่วนภาคใต้ นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ ชี้ว่าที่ผ่านมากำลังซื้อทั้งภาคใต้ชะลอตัวลงจาก 2 ปัจจัย สืบเนื่องจากพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเป็นรายได้หลักของเกษตรกรราคาลดต่ำลงมาก ทั้งปาล์มน้ำมันเหลืออยู่ 2 บาทกว่า/กก. ยางพาราราคาอยู่ที่ 30 บาท/กก. ส่งผลให้ภาพรวมรายได้คนฐานรากลดน้อยลง การจับจ่ายใช้สอยก็น้อยลง ปัจจัยรายได้จากการท่องเที่ยวลดลง จากกลุ่มทัวร์จีนที่หายไป 60-70% ส่งผลกระทบต่อคนชั้นกลางมาก
เดือนธันวาคมเป็นช่วงไฮซีซั่นยอดจองโรงแรมหลัก หรือแหล่งท่องเที่ยวหลักควรจะเต็ม 100% แล้ว แต่วันนี้ยอดจองยังไม่เต็ม 100% ส่งผลให้โรงแรมระดับรองในเมือง โรงแรมรอบนอก โฮสเทล อพาร์ตเมนต์ ยอดจองน้อยลงอีก
อีสานชี้ข้าว-มันฯดี แต่อ้อย-ยางดิ่ง
ด้าน นายสมศักดิ์ ขจรเฉลิมศักดิ์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1 (อุดรธานี, หนองบัวลำภู, หนองคาย, เลย, บึงกาฬ) และ นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนกลาง (ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์) กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ราคาข้าวหอมมะลิราคาดี ตันละ 10,000 กว่าบาท ราคามันสำปะหลังราคาดี แต่ราคาอ้อยและยางพาราราคาไม่ดี ส่งผลกระทบให้ภาพรวมเศรษฐกิจการจับจ่ายใช้สอยในภาคอีสานยังทรง ๆ ตัวไม่ดีขึ้น แต่หวังว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง เศรษฐกิจคงจะเริ่มกระเตื้องดีขึ้น
ตะวันออกชะลอลงทุนรอเลือกตั้ง
นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ภาพรวมกำลังซื้อในภาคตะวันออกช่วงนี้ทรง ๆ ตัว ไม่ได้เติบโตขึ้น หลายคนเก็บเงินชะลอการลงทุนเพื่อรอดูทิศทางการเลือกตั้ง เมื่อได้ความชัดเจนต่าง ๆ แล้วถึงจะลงทุน แต่ด้านการท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปบ้าง โดยเฉพาะพัทยา จ.ชลบุรี จ.ระยอง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น ได้นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นมาทดแทน
สมุดปกขาว” ถึงรัฐบาล
หอการค้าทั่วประเทศส่ง “สมุดปกขาว” ให้รัฐบาลไปผลักดันแก้ปัญหา โดยนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอให้รัฐบาลช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระจายรายได้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ (ease of doing business) ซึ่งเอกชนพร้อมเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
การดำเนินงานของหอการค้ามุ่งสู่ trade and services 4.0 ใน 3 value chain คือ 1) ด้านการค้าและการลงทุน พัฒนาสมาชิกให้ปรับตัวสู่การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี และให้ภาครัฐเปิดเผย big data ให้เอกชนนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ส่งเสริมการค้าชายแดน ลงทุนก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค
2) ด้านเกษตรและอาหาร หอการค้าเตรียมทำโครงการ “1 ไร่ 1 ล้านบาท” ให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจที่ตลาดต้องการ หาตลาดรองรับ รวมถึงโครงการ 1 หอการค้า 1 สหกรณ์การเกษตร และโครงการส่งเสริมนวัตกรรม
3) ด้านการท่องเที่ยว หอการค้ามุ่งส่งเสริมโครงการ 1 หอการค้า 1 แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ช่วยกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และลดการย้ายถิ่นฐาน พร้อมทั้ง “Thailand Tourism Digital Platform” ร่วมกับ 27 สมาคมเชื่อมโยงข้อมูล ทางหอการค้าได้จัดทำ Winning Project ปี 2561-2564 ขึ้น เพื่อให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ แผนงานที่ขอให้รัฐบาลดำเนินการ แผนงานที่ต้องทำงานร่วมกันรัฐ-เอกชน และแผนงานที่หอการค้าดำเนินการเอง (กราฟิก)
“มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 2561 ขยายตัว 4.5% และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2562 น่าจะขยายตัวได้เกินกว่า 4%
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!