นางสาวพนารัตน์ หมื่นน้อย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ท บอกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจมาร์เก็ตติ้งออร์แกไนเซอร์ และมิวสิกเฟสติวัล เปิดเผยว่า ปลายปีนี้ไปจนถึงปี 2562 ตลาดการจัดงานอีเวนต์และมิวสิกเฟสติวัลจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังอยู่ในภาวะทรงตัวมาสักระยะหนึ่ง นอกจากนี้คาดว่ากำลังซื้อและมู้ดในการใช้จ่ายจะเริ่มกลับมา ทำให้ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ
ทั้งนี้แผนงานของบริษัทจะยังคงเดินหน้าจัดงานมิวสิกเฟสติวัล และพาผู้ประกอบการ กลุ่มสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี คนรุ่นใหม่ ชูการจัดงานแบบศิลปะ กิจจกรรมที่เป็นไลฟ์สไตล์ สินค้ากลุ่มแฟชั่น อาหารที่มีเอกลักษณ์ บุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดอาเซียนและเอเชีย ซึ่งล่าสุดได้ไปจัดงานที่ประเทศสิงคโปร์ ตลาดตอบรับดีมาก มีเงินสะพัดจากการจัดงานกว่า 50-60 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเคยไปจัดที่ประเทศมาเลเซีย สร้างรายได้ต่อครั้งกว่า 80ล้านบาท โดยจะจัดงานประมาณ 6 วัน/ ครั้ง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
ล่าสุดปี 2562 เตรียมพาผู้ประกอบการไทยไปจัดงานที่ประเทศไต้หวันและฮ่องกง เพื่อเป็นการขยายตลาดใหม่ๆ ในเอเชีย คาดว่าจะได้รับการตอบรับดี โดยต้องการให้หน่วยภาครัฐ สนับสนุนงบประมาณค่าเดินทางให้ผู้ประกอบการ ที่จะใช้ต่อรายประมาณ 35,000 บาท/งาน
“อุปสรรคใหญ่ของการขยายตลาด คือ ผู้ประกอบการไม่มีงบประมาณในการเดินทาง จึงอยากให้ภาครัฐ ด้านการท่องเที่ยวช่วยสนับสนุนงบประมาณในการเดิน เพราะจากสำรวจว่าการงานดังกล่าว ส่งผลดีต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมาก ทำให้ต่างชาติรู้จักสินค้า อาหารไทย และตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย ผ่านการประชาสัมพันธ์จากการจัดงานของเรา สินค้าที่ต่างชอบคือ น้ำหอมโลคอลแบรนด์ ผลไม้อบแห้ง อาหารแปรรูป ในแต่ละครั้งที่จัดงานต่างประเทศก็จะหาพันธมิตรในต่างประเทศร่วมด้วย ซึ่งรูปแบบการจัดงานก็จะยังคงคอนเซ็ปต์อาร์ทบอกซ์ ตู้คอนเทนเนอร์เหมือนเดิม” นางสาวพนารัตน์กล่าว
สำหรับแผนงานในประเทศ จะเดินหน้าจัดงานไปยังต่างจังหวัดที่เป็นเมืองรองมากขึ้นในปีหน้า เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองรอง โดยวางแผนไว้ว่าจะจัดงานเดือนละ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินธุรกิจและมีรายได้ประมาณ 50 ล้านบาท และคาดว่าปี 2562 จะเริ่มมีกำไร จากปัจจัยบวกการจัดงานถี่ขึ้น และมีสปอนเซอร์สนับสนุนมากยิ่งขึ้น รวมถึงการพยายามลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
