ประชาชนทยอยกลับบ้านหลังพายุปาบึกพ้นนครศรีฯ เร่งสำรวจความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (5 มกราคม 2562) พลโททหารพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมกำลังพลเยี่ยมผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึกที่ยิมเนเซียมเทศบาลเมืองปากพนัง

ซึ่งเป็นศูนย์อพยพประชาชนจาก ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเป็นกำลังใจแก่ประชาชนที่หนีพายุมาอาศัยเป็นการชั่วคราว และเข้าเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงที่ รพ.ปากพนัง ในเวลาต่อมา

ในขณะที่ประชาชนพื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก ได้ทยอยกันเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นระยะๆ แล้ว

ส่วนพื้นที่ อ.สิชล พันตรีประเสริฐ สายท้องแท้ ผบ.หน่วยฝึกรบพิเศษที่ 5 สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้นำกำลังพลพร้อมจิตอาสาเข้าทำการตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนนและล้มทับบ้านเรือนชาวบ้านเป็นจำนวนมาก เพื่อเปิดทางให้ประชาชนได้ใช้ถนนอย่างสะดวก ซึ่งเบื้องต้นบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับผลกระทบความเดือดร้อนในพื้นที่ อ.สิชล ทั้งหมด 600 กว่าหลัง รวมทั้งถนนหลายสายที่ต้นไม้ล้ม พร้อมสำรวจเพิ่มเติมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป

และที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี ปลัดจังหวัดฯ ประชุมคณะทำงานและผู้เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์และสรุปความเสียหายจากเหตุการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก” เบื้องต้นพบว่า พายุโซนร้อน “ปาบึก”ได้ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ 16 อำเภอ ซึ่งขณะนี้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายเป็นการเร่งด่วน

โดยส่วนใหญ่เป็นความเสียหายจากลมกรรโชกแรง พัดบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง ต้นไม้และเสาไฟฟ้าล้มเสียหาย กระแสไฟฟ้าขัดข้อง เส้นทางถูกกีดขวาง และมียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย ในพื้นที่อำเภอปากพนัง เฉลิมพระเกียรติและอำเภอหัวไทร ส่วนการเร่งฟื้นฟูสถานการณ์ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดฯ ได้ประสานขอความร่วมมือสนับสนุนบุคลากรพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์จากการไฟฟ้าจังหวัดกระบี่และจังหวัดยะลาจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานร่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยคาดว่าภายในวันนี้(5 มกราคม 2562) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติในทุกพื้นที่ ขณะที่การเร่งเข้าฟื้นฟูภายในโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งได้เร่งดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติแล้วเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ผ่านมา

ด้านการตรึงสถานการณ์ในสถานที่สำคัญ ที่บริเวณท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล และเครื่องสูบน้ำระยะไกลเข้าประจำท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เพื่อดูแลระบบไฟฟ้าและปฏิบัติการสูบน้ำในบริเวณท่าอากาศฯ ซึ่งล่าสุดยืนยันว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น.วันนี้ (5 มกราคม 2562) สามารถเปิดทำการบินได้ตามปกติแล้ว

ส่วนการให้ความช่วยเหลือด้านปศุสัตว์นั้น ทางกรมปศุสัตว์ได้ส่งชุดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ และหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ จำนวน 60 นาย ลงพื้นที่เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจ และรับมอบพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่ประสบภัยฯ จำนวน 6 อำเภอ

ขณะที่นายพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง แจ้งว่า จากสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึกที่ได้พัดถล่มในพื้นที่ อ.ปากพนัง ตอนนี้ได้เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ประชาชนได้เริ่มทยอยกลับบ้านและตรวจสอบสิ่งของ ส่วนในเขตเทศบาลเมืองปากพนังซึ่งมีประชาชนทั้งหมดกว่าสองหมื่นคนหกพันกว่าครัวเรือน ได้รับความเสียหายทั้งหมด จากภาวะน้ำท่วมขังซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่น้ำจะทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนทุกหลังในระดับสูง

ความเสียหายส่วนใหญ่ก็จะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านและตัวบ้าน โดยเฉพาะหลังคา ได้มีการกว้านซื้อมาแก้ปัญหาเบื้องต้นให้กับประชาชน แต่ก็ไม่เพียงพอเพราะตอนนี้กระเบื้องขาดตลาด สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดคือกระเบื้องหลังคา เนื่องจากได้รับผลกระทบหลังคาปลิวไปแทบทุกหลังคาเรือน

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!