เชียงใหม่เร่งรับมือปัญหาหมอกควันเป็น ”วาระจังหวัด” ขีดเส้นตายใช้กฎหมายบังคับ ” 61 วันห้ามเผา”

จังหวัดเชียงใหม่เตรียมรับมือปัญหาหมอกควันและไฟป่า ประกาศเป็น”วาระจังหวัด” เร่งดำเนินการแก้ไขจริงจัง กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด”61 วันไม่เผา” ด้าน”อ.แม่แจ่ม”เลิกเผาตอซังข้าวโพด 9 หมื่นตัน เอกชนแห่รับซื้อนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานชีวมวล สร้างรายได้ให้เกษตรกร 70 – 80 ล้านบาทต่อปี

นายสุรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเกิดไฟป่า การเผาในที่โล่ง สภาพภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะ มีภูเขาล้อมรอบ ประกอบกับความกดอากาศสูง ทำให้หมอกควันแผ่ปกคลุมทั่วเมือง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศให้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

โดยได้กำหนด 3 มาตรการ คือ 1.มาตรการเตรียมการและป้องกัน (ระหว่างเดือนตุลาคม 2561 – เดือนกุมภาพันธ์ 2562) ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 1 คือ ดึงฟืนออกจากไฟ มุ่งบูรณาการทุกภาคส่วนให้จัดเตรียมบุคลากร เครื่องมือ งบประมาณ บริหารจัดการด้วยการชิงเผา ทำแนวกันไฟในพื้นที่ป่า และดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลอย่างทั่วถึง

2.มาตรการรับมือ (ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2562) ซึ่งจะกำหนดช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด ภายใต้ชื่อ “61 วันไม่เผา ชาวเชียงใหม่ร่วมแรงร่วมใจ ต้านภัยหมอกควันและไฟป่า เพื่อสุขภาพที่ดี เศรษฐกิจที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดี” ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 2 ดึงไฟจากใจคน ด้วยการจัดชุดลาดตระเวน ชุดปฏิบัติการเข้าดับไฟทันทีรวดเร็ว

หากมีการเผาในพื้นที่ และดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากผู้ใดจะทำการเผาหลังวันที่ 30 เมษายน 2562 ต้องขออนุญาตจากนายอำเภอก่อนดำเนินการทุกครั้งเพื่อควบคุมการเผาโดยพนักงานเจ้าหน้าที่

3.มาตรการสร้างความยั่งยืน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป) ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 3 ควบคุมไฟอย่างยั่งยืนด้วยศาสตร์พระราชา บูรณาการหน่วยงานภาครัฐร่วมให้ความรู้แก่เยาวชน ประชาชน ร่วมกับประชาชนและนักธุรกิจดำเนินการตามโครงการตาม พระราชดำริ โดยเฉพาะการเสริมสร้างการปลูกป่าในใจคน การสร้างชุมชนปลอดการเผา เป็นต้น

นายสุรัชชา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในปีนี้ (2562) ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากช่วงระยะนี้เป็นช่วงเวลาของการชิงเผาในพื้นที่ป่าเพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิง แต่ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะสภาพพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความชื้นสูง ด้วยเพราะก่อนหน้านี้ในช่วงปีใหม่มีฝนตก ความชื้นจึงเพิ่มขึ้น

ด้านนายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ นายอำเภอแม่แจ่ม กล่าวว่า ที่ผ่านมาอำเภอแม่แจ่มถือเป็นพื้นที่หนึ่งที่เกิดปัญหาหมอกควันและไฟป่ารุนแรง เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุด ได้มีการแก้ปัญหาตอซังข้าวโพดที่เกษตรกรจะทำลายด้วยการเผาหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งมีปริมาณตอซังข้าวโพดราว 90,000 ตันต่อปี

โดยในปี 2562 มีบริษัทเอกชนเข้ามารับซื้อตอซังข้าโพดจากเกษตรกร เพื่อนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานชีวมวล คิดเป็นมูลค่าราว 70 – 80 ล้านบาท ที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้จากการขายตอซังข้าวโพด จึงทำให้ในปีนี้จะไม่มีการเผาตอซังข้าวโพดในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!