นางพราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศ และของตกแต่งบ้าน รวมถึงการบริการการดีไซน์การออกแบบตกแต่งภายใน ปัจจุบันตลาดขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ตามการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง จากการเปิดโครงการใหม่ในทุกปี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
ทั้งนี้บริษัทได้เห็นช่องว่างที่จะขยายธุรกิจ โดยการเพิ่มสัดส่วนงานโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นเป็น 60% ที่เหลือเป็นร้านค้าปลีก 40% จากเดิมสัดส่วนจะอยู่ที่ 50% ต่อ 50% ขณะเดียวกันจะเพิ่มสินค้าและวางกลยุทธ์ด้านบริการรูปแบบครบวงจร 360 องศา และบริษัทมีแผนจะขยายตลาดในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ซึ่งบริษัทมีลูกค้าโรงแรมอยู่แล้ว แต่จะขยายไปยังกลุ่มที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และมีแผนเปิดสาขาใหม่ที่เวียดนามในอีก 3 ปี จากปัจจุบันมี 2 สาขา คือ สาขาทองหล่อ และสาขาภูเก็ต
นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับโรงงานมาตรฐานระดับโลกสำหรับการรองรับการขยายการผลิต ทำให้สามารถผลิตสินค้าในสเกลที่มากขึ้น รองรับลูกค้าโครงการขนาดใหญ่และทำราคาที่กลุ่มดังกล่าวเข้าถึงได้อีกด้วย คาดว่าปีนี้จะมีลูกค้าใหม่ไม่น้อยกว่า 50 โครงการ ซึ่งแต่ละปีจะมีลูกค้าประมาณ 30-50 โครงการ ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาแล้ว 2 โครงการ 270 ยูนิต พร้อมตั้งงบด้านการตลาดถึง 15%
อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์มีมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท โดยสินค้าระดับลักซ์ชัวรี่มีสัดส่วนราว 30% จากก่อนหน้ามีสัดส่วนที่ 10-28% จากการสำรวจของบริษัทยังพบว่าตลาดมีการเติบโตดีต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะผันผวน โดยพบว่าเฟอร์นิเจอร์กลาง-บน เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตจากผู้บริโภคยุคใหม่อายุ 30-35 ปี
สำหรับช่องทางการจำหน่ายในปัจจุบันของบริษัทคือ มีหน้าร้านควอตโตร อยู่ที่สาขาทองหล่อและสาขาภูเก็ต โดยเฉพาะสาขาภูเก็ต ขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เช่น สงคโปร์ มาเลเซีย และยุโรป สินค้าสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยบวกสนับสนุน
“เชื่อว่าตลาดเฟอร์นิเจอร์และตลาดออกแบบดีไซน์ ปีนี้กลุ่มไฮเอนด์จะขยายตัวไปเรื่อยๆ ไม่ได้รับผลกระทบจากจากพิษเศรษฐกิจเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากมาย ลูกค้าตลาดบนยังมีกำลังซื้อ เราได้สำรวจพบว่ากลุ่มที่มีอายุ 30-35 ปี มีกำลังซื้อสูงมาก ซึ่งเป็นจากอดีตที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป และสไตล์ก็มักจะชื่นชอบอะไรที่เป็นแบบคลาสสิก” นางพราวพรรณกล่าว และว่า
สำหรับปีนี้ตั้งเป้าโต 50% หรือมีรายได้ที่ 200-300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ 180 ล้านบาท โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 35%
