ทะเลตรังสีชมพู! คู่รักจดทะเบียนใต้สมุทรลึก 8 เมตร

วิวาห์ใต้สมุทร 2019 คึกคัก นายทะเบียน นำคู่บ่าว สาว 9 คู่ เป็นชาวจีน 1 คู่ มาเลเซีย 1 คู่ และไทย 7 คู่ ลงจดทะเบียนสมรส และรดทรายสังข์ใต้ท้องทะเลตรัง ความลึก 8 เมตร ส่วนอีก 10 คู่สวมชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาวว่ายน้ำไปชมความงามภายในถ้ำมรกตเพื่อเก็บภาพและประทับความทรงจำ พร้อมจดทะเบียนจริงบนแพไม้ไผ่กลางทะเลตรัง ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศพิธีวิวาห์ใต้สมุทร 2019 ครั้งที่ 23 ว่า ที่บริเวณหินก้อนเดียว ใกล้กับถ้ำมรกต เกาะมุกด์ อ.กันตัง จ.ตรัง คู่บ่าวสาว ทั้ง 19 คู่ แต่งกายสวมชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว โดยมีคู่บ่าวสาวจำนวน 9 คู่ ดำน้ำลงไปทำพิธีรดทรายสังข์และจดทะเบียนสมรสใต้ทะเล ความลึกประมาณ 8 เมตร ซึ่งบริเวณนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม น้ำทะเลใส สามารถมองเห็นจากผิวน้ำไปสู่บริเวณที่ทำพิธีได้


โดยมีนายทะเบียนใต้น้ำ นายนฤทธิ์ มงคลศรี ปลัดจังหวัดตรัง, นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทางทะเลที่ 10 (ตรัง) , นายพิชัย มะนะสุทธิ์ ประธานหอการค้า , นายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุต และพ.ต.ท.วรรณา อินเชื้อ สารวัตรตำรวจน้ำตรัง ซึ่งในปีนี้มีนายทะเบียนใต้น้ำทั้งหมด 5 คน ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีความเชี่ยวชาญในการดำน้ำ นำคู่บ่าวลงจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเลตรัง และทำพิธีรดทรายสังข์ให้แก่คู่บ่าวสาวทั้ง 9 คู่ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจีน 1 คู่ มาเลเซีย 1 คู่ และไทย 7 คู่

ส่วนอีก 10 คู่ได้ว่ายน้ำไปชมความงามภายในถ้ำมรกตเพื่อเก็บภาพและประทับความทรงจำ เที่ยวทะเลตรังที่แสนงดงาม หลังจากนั้นนายพรชัย สุขโสม นายอำเภอกันตัง ได้เป็นนายทะเบียนจดทะเบียนสมรสจริงให้แก่คู่บ่าวสาว จำนวน 12 คู่ บนแพกลางทะเลตรัง ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นและหอมหวานจนทะเลตรังกลายเป็นสีชมพู


นางสาวเนตรนภิศ เหล่าปทุมวิโรจน์ และนายกิตติพันธ์ สถิตภัทรสมบัติ คู่ชาวไทย กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่สุด ซึ่งส่วนตัวก็เป็นคนชอบทะเลอยู่แล้ว เมื่อได้ลงไปสัมผัสใต้ท้องทะเลรู้สึกแปลกจากที่เคยดำน้ำเที่ยวอย่างเดียวแต่ต้องเข้าร่วมพิธีรดทรายสังข์ใต้ทะเล เพราะมีทั้งนายทะเบียนโต๊ะทำพิธีจดทะเบียน โดยใช้เวลาประมาณ 17 นาที รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก


ทั้งนี้ในช่วงเย็นก็จะมีงานเลี้ยงแสดงความยินดีบริเวณชายหาดปากเมง บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกสำหรับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คู่วิวาห์จะเดินทางไปวัดเขาแก้ว สักการะพระประธานในอุโบสถ ตีระฆังและฆ้องใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและมีโชคลาภ จากนั้นก็จะไปสักการะพระท่ามกงเยี่ย ณ ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย และร่วมงานเลี้ยง ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง