“เชียงใหม่” อ่วมฝุ่นพิษวิกฤต หลายจังหวัดภาคเหนือเกินมาตรฐาน ส่วนกทม.-ปริมณฑลอากาศดีมาก

ภาพจาก แฟ้มภาพ

“เชียงใหม่” อ่วมฝุ่นพิษวิกฤต หลายจังหวัดภาคเหนือยังเกินมาตรฐาน ส่วนกทม.-ปริมณฑลอากาศดีมาก

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ปริมาณ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานเล็กน้อย มีค่าฝุ่นละออง 7-32 มคก./ลบ.โดยปริมาณฝุ่นละอองยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงดีมาก

สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา 1.บก.จร. ตรวจสอบตรวจจับรถควันดำตามมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ใน กทม. บนถ.ราชพฤกษ์ พระราม 2 ถ.พุทธมณฑลสาย2 สุวินทวงศ์ เทพรัตน์ พระราม 9 อุตสาหกรรม เจ้าคุณทหาร เพชรเกษม บรมราชชนนี ลาดกระบัง กาญจนาภิเษก ประดิษฐ์มนูธรรม เอกชัย พหลโยธิน พบรถควันดำเกินมาตรฐาน 597 ราย แบ่งเป็นรถใหญ่ตาม พ.ร.บ. ขนส่ง 364 ราย รถเล็กตาม พ.ร.บ. จราจร 233 ราย 2. กรมการขนส่งทางบก ตรวจจับรถควันดำ 1128 คัน พบควันดำ 30 คัน (รถบรรทุก 27 คัน รถโดยสาร 3 คัน) และออกหนังสือเตือนให้ปรับปรุงรถ 30 คัน สำหรับรถที่มีควันดำเกินเกณฑ์ที่กำหนดได้พ่น “ห้ามใช้” ทุกคัน และลงโทษปรับในอัตรา 5,000 บาท ทุกราย 3. หน่วยงานอื่นๆ ยังคงติดตามตรวจสอบ เฝ้าระวัง และดำเนินการตามมาตรการของหน่วยงานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน

ทั้งนี้คาดการณ์สถานการณ์ จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของ คพ. คาดว่าในวันพรุ่งนี้ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จากการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นละอองของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง จะช่วยให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้

ขณะที่สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ  คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 51 – 117 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.) PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 33 – 101 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยพื้นที่วิกฤตสีแดงคือ จ.เชียงใหม่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม 101 มคก./ ลบ.ม. ส่วนพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม ได้แก่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง 57 มคก./ลบ.ม. ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 51 มคก./ลบ.ม. จ.ลำปาง ต.พระบาท อ.เมือง 74 มคก./ลบ.ม. ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ 59 มคก./ลบ.ม. ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 57 มคก./ลบ.ม. จ.ลำพูน ต.บ้านกลาง อ.เมือง 75 มคก./ลบ.ม. จ. น่าน ต.ในเวียง อ.เมือง 54 มคก./ลบ.ม. จ.ตาก ต.แม่ปะ อ.แม่สอด 56 มคก./ลบ.ม. ด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง 66 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้ได้มีการออกประกาศห้วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่ 9 จ.ภาคเหนือ ประจำปี 2562 ได้แก่ จ.ลำปาง 10 กุมภาพันธ์ -10 เมษายน เชียงราย 10 กุมภาพันธ์-15 เมษายน น่าน 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน แพร่ 15 กุมภาพันธ์ -15 เมษายน พะเยา 15 กุมภาพันธ์ -15 เมษายน แม่ฮ่องสอน 1 มีนาคม -30 เมษายน เชียงใหม่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน ลำพูน 1 มีนาคม-30 เมษายน ตาก 1 มีนาคม – 30 เมษายน โดยงดเว้นการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะ เผาวัชพืชริมทางและเผาในพื้นที่โล่งทุกกรณีโดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย โดยเฝ้าระวังใน 4 พื้นที่ คือ พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร ชุมชน ริมทางหลวง หากพบเห็นแจ้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 1784 กรมทางหลวง 1586 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1362 กรมป่าไม้ 1310 กด3 และสายด่วนแจ้งเหตุ 191

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์