ตลาดเมล็ดกาแฟแข่งเดือด “เนสท์เล่-ซีพี”แห่นำเข้าทะลัก

แฟ้มภาพ
ตลาดกาแฟ 38,000 ล้านบาทเดือด ยักษ์ใหญ่ “เนสท์เล่-ซีพี ออลล์-สตาร์บัคส์-เบอร์ดี้-เขาช่อง” แห่ยื่นขอนำเข้าเมล็ดกาแฟพุ่ง 48,000 ตัน เหตุราคาเมล็ดกาแฟตลาดโลกร่วงต่ำกว่าเมล็ดกาแฟในประเทศเกือบ 20-25 บาท/กก. ส่งผลเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟไทยทั้งภาคใต้-ภาคเหนือกระอักร้องรัฐเลื่อนเวลานำเข้าออกไปก่อน

นายนัด ดวงใส กรรมการ คณะกรรมการพืชกาแฟ กรมวิชาการเกษตร และที่ปรึกษาประธานชุมนุมเกษตรกรแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” หลังสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟดิบ (โรบัสต้า-อราบิก้า) ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ชาวสวนกาแฟน่าจะมีผลผลิตประมาณ 3,500 ตัน แบ่งเป็น จังหวัดชุมพร 1,300 ตัน, ระนอง 600 ตัน, เชียงใหม่-เชียงราย 1,500 ตัน แต่ผลผลิตจำนวนนี้ยังไม่นับรวมผู้ปลูกกาแฟรายใหญ่อีกหลายราย ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตเมล็ดกาแฟปีนี้มีประมาณ 32,000 ตัน ไม่ต่างจากผลผลิตปี 2561 นัก ทั้งโรบัสต้า และอราบิก้า

เทียบกับราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกตอนนี้อยู่ประมาณ 47-50 บาท/กก. ในขณะที่ราคาเมล็ดกาแฟไทยขายอยู่ประมาณ 70 บาท/กก. หรือมีราคาต่างกันอยู่ 20-25 บาท/กก. ส่งผลให้ผู้ประกอบการกาแฟรายใหญ่ของไทยหลายรายรับซื้อเมล็ดกาแฟดิบจากชาวสวนไปแค่ร้อยละ 40 จากปริมาณผลผลิตทั้งหมด

“บริษัทกาแฟรายใหญ่กำลังรอที่จะนำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ เพราะราคาถูกกว่าเมล็ดกาแฟภายในประเทศโดยเฉพาะโรบัสต้า หลายบริษัทได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำเข้าต่อคณะกรรมการพืชกาแฟไปแล้ว และคณะกรรมการเห็นชอบให้เริ่มนำเข้าได้ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน-30 พฤศจิกายน 2562 จากเดิมที่ควรจะเริ่มนำเข้าประมาณวันที่ 30 มีนาคม-30 พฤศจิกายน แต่ได้เลื่อนระยะเวลาออกไปอีก 1 เดือน เพื่อให้ชาวสวนขายเมล็ดกาแฟในประเทศให้หมดเสียก่อน” นายนัดกล่าว

ดังนั้น ชุมนุมสหกรณ์เกษตรกรแห่งประเทศไทยจึงอยากร้องเรียนไปถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน พรรคการเมือง และรัฐบาลใหม่ ขอให้เข้ามากำกับดูแลราคาผลผลิตทางการเกษตรให้อยู่ในเกณฑ์ดี มีการใช้มาตรการกำกับการนำเข้าพืชผลตามฤดูกาลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตภายในประเทศ “ก่อนที่จะเปิดให้นำเข้า รัฐต้องเข้ามาดูแลเกษตรกรไทยก่อน”

เนสท์เล่แชมป์นำเข้า 

มีรายงานข่าวเข้ามาว่า บริษัทผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่ยื่นเรื่องขอนำเข้าเมล็ดกาแฟต่อคณะกรรมการพืชสวนกาแฟ ประกอบไปด้วย 1) บริษัทเนสท์เล่ กาแฟโรบัสต้า 40,300 ตัน-อราบิก้า 300 ตัน 2) บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ ผู้ผลิตกาแฟเบอร์ดี้ กาแฟโรบัสต้าจำนวน 2,800 ตัน 3) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (ประเทศไทย) โรบัสต้า 3,500 ตัน หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วมากกว่าเท่าตัว 4) บริษัท ยาคอปฯกาแฟโรบัสต้า 1,500 ตัน และ 5) อื่น ๆ ขอนำเข้ารายละ 60-600 ตันอีกหลายราย รวมทั้งหมดขออนุญาตนำเข้ากาแฟประมาณ 48,000 ตัน แบ่งเป็น โรบัสต้า 40,615 ตัน กับอราบิก้า 2,560 ตัน โดยปีนี้มีข้อน่าสังเกตว่า บริษัทเนสท์เล่เพียงรายเดียวก็นำเข้าเมล็ดกาแฟไปแล้วถึง 40,300 ตัน หรือมากกว่าปริมาณผลผลิตเมล็ดกาแฟในประเทศที่ผลิตได้ทั้งหมด 32,000 ตัน

“ตอนนี้บริษัทที่ซื้อเมล็ดกาแฟจากชาวสวนมากที่สุดก็คือ บริษัทเนสท์เล่ ตอนนี้ซื้อไปแล้วประมาณ 7,000 ตัน กับบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ ผู้ผลิตกาแฟเบอร์ดี้ ส่วนบริษัทอื่นยังไม่ได้ออกมารับซื้อเมล็ดกาแฟจากชาวสวน รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการโรงคั่วกาแฟที่เคยซื้อคราวละ 100-500 ตัน ตอนนี้ก็ยังไม่ออกมารับซื้อเพราะราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกต่ำกว่าไทย ส่งผลให้ราคาภายในจะต้องปรับตัวลดลงไปด้วย” แหล่งข่าวกล่าว

สองยักษ์ชิงแชร์ 38,000 ล.

สำหรับภาพรวมตลาดกาแฟไทยมูลค่าประมาณ 38,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการแข่งขันกันดุเดือดมาก บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด แบรนด์กาแฟรายใหญ่ของตลาด ทั้งร้านเนสกาแฟฮับ, คาเฟ่ในไฮเปอร์มาร์เก็ต จำหน่ายกาแฟในราคาเริ่มต้นแก้วละ 10 บาท พร้อมชูเนสกาแฟ “ดอลเช่ กุสโต้” เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติและแคปซูลกาแฟ ถือว่าเป็นการพลิกโฉมเกมการทำตลาดกาแฟให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดแมสเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

ขณะนี้ “ซีพี ออลล์” ค้าปลีกรายใหญ่ในเครือ C.P. ที่มีแบรนด์กาแฟในเครือครอบคลุมทุกตลาด ตั้งแต่ราคาระดับแมสไปจนถึงตลาดระดับกลางบน ทั้งที่ไปกับร้านสะดวกซื้อ 7-11 และการเข้าไปเปิดสแตนด์อะโลนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ อาทิ ออลล์ คาเฟ่, ออลล์ คาเฟ่ โกลด์, มวลชน, เบลลินี่, อาราบิเทีย และจังเกิ้ลคาเฟ่ รวมถึงการเปิดแฟรนไชส์ พร้อมเตรียมจะเปิดตลาดกาแฟรถเข็นทั่วประเทศ

สตาร์บัคส์ขึ้นแท่นเบอร์ 2

มีรายงานจากกรมศุลกากรเข้ามาว่า ในเดือนมกราคม 2562 เพียงเดือนเดียว ยอดการนำเข้ากาแฟ (พิกัด 0901) จำนวน 538.6 ตัน มูลค่า 52.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว หากเทียบกับเดือนมกราคม 2561 ที่มีปริมาณการนำเข้า 291.2 ตัน มูลค่า 43.26 ล้านบาท และหากเทียบปริมาณการนำเข้าทั้งปี 2561 มีปริมาณ 64,685 ตัน มูลค่า 4,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ซึ่งมีปริมาณนำเข้า 57,997 ตัน มูลค่า 5,014.5 ล้านบาทเป็นที่น่าสังเกตว่า รายชื่อบริษัทผู้นำเข้ารายใหญ่ 5 อันดับแรก มีความเปลี่ยนแปลงไป โดยล่าสุดการนำเข้าในเดือนมกราคม 2562 ปรากฏว่า บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท ควอลิคอฟฟี่โปรดักท์ส จำกัด (แบรนด์เนสท์เล่) อันดับ 1 ตามด้วยอันดับ 3 บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด อันดับ 4 บริษัท อินบิสโก้ (ประเทศไทย) จำกัด (โกปิโก้) และอันดับ 5 บริษัท ดาวเรืองอิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด ขณะที่ในปี 2561 ที่ผ่านมา รายชื่อผู้นำเข้า 5 อันดับแรกยังเป็นกลุ่มเจ้าตลาดเดิม คือ ควอลิคอฟฟี่โปรดักท์ส ตามด้วยบริษัท เขาช่องอุตสาหกรรม 1979 จำกัด, บริษัท มอคโคน่า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท สตาร์บัคส์ และบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้

ตลาดกาแฟคั่วพุ่ง 8-10%

นายเจริญ บุญลาภทวีโชค เลขาธิการสมาคมกาแฟไทย กล่าวว่า ขณะนี้ความต้องการบริโภคกาแฟโดยเฉพาะกาแฟคั่วบด ที่ใช้ในร้านกาแฟต่าง ๆ มีปริมาณมากขึ้น โดยคาดว่าทั้งปี 2562 จะมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น 8-10% จากตลาดร้านกาแฟเชนต่าง ๆ ที่มีการขยายสาขาและมีจำนวนการจำหน่ายต่อสาขาเพิ่มมากขึ้น เช่น ร้านกาแฟออลอินวันคาเฟ่ในเซเว่นฯมีแผนจะขยายสาขาอีก 1,000 สาขา จากปัจจุบันที่มีจำนวน 6,000 สาขา และร้านกาแฟอเมซอน เป็นต้น

ในปัจจุบันสัดส่วนการใช้กาแฟคั่วบดคิดเป็นปริมาณ 25-30% ของการใช้ภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนน้อยหากเทียบกับการใช้กาแฟอินสแตนต์ ที่ใช้เป็นส่วนผสมของกาแฟ 3 in 1 ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 75-80%

“ขณะนี้ปริมาณการผลิตกาแฟในประเทศทั้งโรบัสต้าและอราบิก้าต่อปียังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้จึงต้องมีการนำเข้า โดยเฉพาะกาแฟอินสแตนต์ที่ต้องนำเข้า ซึ่งโดยปกติจะมีคณะอนุกรรมการพืชสวน เป็นผู้บริหารจัดการการนำเข้าและดูแลผลผลิตภายในประเทศ โดยมีระบบประกันรับซื้อเมล็ดกาแฟภายในประเทศ เพื่อนำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ ซึ่งในแต่ละปีมีการกำหนดปริมาณและราคาต่างกันไป ตามสถานการณ์การผลิตและการตลาด เราต้องยอมรับในปีนี้สถานการณ์ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกปรับลดลงต่ำกว่าราคาในประเทศ แต่ปัจจัยราคาไม่ใช่เหตุผลหลักในการนำเข้า ไม่ใช่กาแฟราคาถูกแล้วคนจะดื่มกาแฟมากขึ้น เพราะผู้บริโภคก็ยังบริโภคเฉลี่ย 2-3 แก้วต่อวัน แต่ปัจจัยหลักของการนำเข้ามาจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น” นายเจริญกล่าว

คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่..  เทรนด์ร้านกาแฟโต 1.7 หมื่นล้าน กวินฯจัดบิ๊กอีเวนต์ยกระดับเทรดภูมิภาค

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!