พัทลุงมั่นใจไม่กระทบท่องเที่ยว
พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เปิดเผยว่า กรณีมีการลักลอบวางระเบิด 11 จุด ที่ อ.ปกพะยูน และ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 กบภ.จว.พัทลุง ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อเร่งคลี่คลายคดี โดยมีการเก็บพยานหลักฐานในทุกด้าน ที่คิดว่าจะเกี่ยวพันกับรูปคดี เบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายมามากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ส่วนสาเหตุจะมาจากเรื่องอะไร ต้องรอให้จับกุมผู้ต้องหาให้ได้ก่อน จึงจะสามารถรู้ได้ว่าคนร้ายก่อเหตุเพราะสาเหตุใด
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง และ พ.ต.ท.ประเสริฐ ไชยเดช สว.สส.สภ.ปากพะยูน จ.พัทลุง พร้อมเจ้าหน้ที่ ร่วมกันเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุตามจุดต่าง ๆ อ.เมือง และ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง และนำมาตรวจสอบภาพวงจรปิดในที่ประชุม ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงในวันนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในครั้งนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ด้านนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดพัทลุง 11 จุดนั้น คาดว่าไม่มีผลกระทบกับการท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง อันดับ 1 ของภาคใต้ และอันดับ 2 ของประเทศแต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด
แต่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จังหวัดได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันวางมาตรการการรักษาความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้จับตาบุคคลต่างถิ่นที่เข้ามาในพื้นที่ จ.พัทลุง หากพบพฤติกรรมและวัตถุต้องสงสัยก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐรับทราบทันที
ภูเก็ตเข้มเฝ้าระวังป้องกันเหตุ
ด้าน พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง ผบก.ปรท.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้เพิ่มความเข้มงวด ร่วมกันเฝ้าระวังผู้ไม่หวังดีออกมาสร้างสถานการณ์ สร้างความวุ่นวายหรือก่อเหตุร้ายในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งที่พักอาศัยของบุคคลเป้าหมาย เพื่อกำหนดเป้าหมายในการตรวจค้น ป้องกันไม่ให้ก่อเหตุ รวมทั้งเพิ่มมาตรการตรวจสอบบุคคลเป้าหมายที่เดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรทุกช่องทาง โดยประสานการข่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตม.จว.ภูเก็ต, ตม.ทอ.ภูเก็ต หน่วยงานการข่าวความมั่นคงทุกสังกัดทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
ทั้งนี้ให้เพิ่มความเข้มการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด จุดตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิดและสิ่งผิดกฎหมายในเส้นทางหลัก เส้นทางรอง จัดสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์เพิ่มความถี่ในการตรวจให้ครอบคลุมพื้นที่ สังเกตสิ่งผิดปกติ โดยบูรณาการร่วมกับฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจทางหลวงและอาสาสมัครต่างๆ ที่ร่วมปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อป้องปรามตัดโอกาสกระทำผิดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนก ตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัย ตรวจสอบฐานข้อมูลอาชญากรรม ตรวจค้นวัตถุต้องสงสัยเมื่อพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฏหมายทุกกรณี
เมืองคอนยกระดับรักษาความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีเจ้าหน้าที่ทั้งนอกและในเครื่องแบบกระจายกำลังเข้ารักษาความปลอดภัย และติดตามสถานการณ์ตามจุดสำคัญของ จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะจุดที่เป็นแลนด์มาร์ก เช่น วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเข้ามานมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก เพื่อรักษาตรวจสอบดูแลหลังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.สตูล และพัทลุง
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการด่วนให้ 23 อำเภอ ยกระดับการรักษาความปลอดภัยทั้งในสถานที่ราชการ แหล่งท่องเที่ยว ศูนย์การค้า และระบบขนส่งมวลชน ให้มีการปรับแผนอำนวยการรองรับสถานการณ์ร้ายแรงมาเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะจุดล่อแหลม นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังเร่งติดตามเครือข่ายการก่อเหตุที่อาจเชื่อมโยงกับพื้นที่ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องด้วย
