ฝุ่นเชียงรายฟุ้งต่อเนื่องวันที่ 3 ฝ่ายปกครอง-อปท.ผนึกกำลังเร่งดับไฟเวียงแก่น

วันนี้ (13 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองและหมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงพบว่าอากาศทั่วไปขมุกขมัวติดต่อกันเป็นวันที่ 3

โดยที่ชายแดนไทย-เมียนมา เครื่องวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งบริเวณสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ตรวจวัดอากาศในเวลา 09.00 น.พบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันเล็กกว่า 2.5 ไมครอนในอากาศหรือหรือพีเอ็ม 2.5 จำนวน 172 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือพีเอ็ม 10 จำนวน 227 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ส่วนในเขต อ.เมืองเชียงราย วัดจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ห่างจากชายแดนประมาณ 60 กิโลเมตร พบมีค่า PM 2.5 จำนวน 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า PM 10 จำนวน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งถือว่าเข้าสู่เกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นครั้งแรกในปีนี้แล้ว ทำให้ประชาชนทั่วไปต่างรู้สึกแสบตาและหายใจลำบากเมื่ออยู่ในที่โล่งเป็นเวลานาน

ขณะที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ได้รายงานสถานการณ์การเกิดไฟไหม้ต่อนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในพื้นที่ว่ายังคงเบาบางโดยช่วงวันที่ 12 มี.ค. 2562ที่ผ่านมาเกิดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตที่วัดจากดาวเทียมได้เพียง 4-5 จุดพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เทิง และ อ.เวียงแก่น

อย่างไรก็ตามช่วงคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ฝ่ายปกครองทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปอ อ.เวียงแก่น ชายแดนไทย-สปป.ลาว ต่างช่วยกันระดมกำลังดับไฟป่าพื้นที่ดอยยาวเขตหมู่บ้านทรายทอง หมู่ 7 ต.ปอ อ.เวียงแก่น หลังจากได้เกิดไฟป่าขึ้นในเวลาคืนโดยไฟได้โหมลุกไหม้เป็นบริเวณกว้าง บนพื้นที่สูงชันทำให้การดับเป็นไปด้วยความยากลำบากแต่ก็สามารถควบคุมเพลิงไม่ได้ลุกลามออกมาได้

เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการเผา เพื่อเอาที่ทำกิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามหาตัวคนกระทำความผิดและตรวจสอบความเสียหายของพื้นที่ดังกล่าวต่อไป พบว่าจุดฮอตสปอตหรือไฟไหม้ใน จ.เชียงราย ตั้งแต่มีประกาศใช้มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง จ.เชียงราย ปี 2561-25562 ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.โดยห้ามไม่ให้มีการเผาใดๆ ทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด เกิดขึ้นเพียงประมาณ 20 จุดเท่านั้น แต่กลุ่มควันไฟส่วนใหญ่ปลิวมาจากทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเผาไหม้เป็นบริเวณกว้างอย่างเห็นได้ชัด