งัดกฎหมายการเดินเรือใหม่จัดระเบียบ”คลองแม่ข่า”พบผู้ครอบครองที่ดินกว่าพันราย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ ว่าวันนี้ (30 สิงหาคม 2560) ได้มีการประชุมคณะทำงานด้านบังคับใช้กฎหมาย ครั้งที่ 1/2560 และแนวทางการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าของภาครัฐ ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนที่อยู่อาศัยริมคลองแม่ข่าเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีประกาศแต่งตั้งคณะทำงานด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลงวันที่ 12 เมษายน 2560 ประกอบกับพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 ที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เป็นต้นมา

ประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ การประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรที่ครอบครองหรือมีพื้นที่ติดกับที่ดินของรัฐบริเวณคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขา ให้ทราบคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2560 เรื่อง การบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนในกรณีปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 และแนวทางการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าของภาครัฐ โดยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขายื่นเอกสารหรือหลักฐานแสดงการครอบครองหรือการได้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดนั้น เพื่อประกอบการพิจารณาต่อเจ้าท่าภายในวันที่ 1 กันยายน 2560 ซึ่งครบกำหนดระยะของการขยายเวลาการดำเนินการตาม พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560

นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัญหาคลองแม่ข่าถือเป็นปัญหาระดับประเทศ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ในระดับนโยบายที่ต้องเร่งแก้ไข ทั้งประเด็นปัญหาการรุกล้ำลำน้ำ ปัญหามลพิษ แลปัญหาขยะมูลฝอยที่ผู้อาศัยตลอดแนวริมคลองได้ทิ้งลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการรุกล้ำลำน้ำเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งพบว่ามีทั้งผู้ครอบครองที่ดินและอยู่อาศัย และผู้ครอบครองที่ดิน แต่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง เป็นประเด็นที่ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560

นายวิพงศ์ ดาวรัตนหงษ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จากการสอบเขตคลองแม่ข่าในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่เขตติดต่อตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จนถึงตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร โดยได้ยื่นรังวัดสอบเขตที่ดินบริเวณติดคลองแม่ข่า สรุปได้ว่า ระยะทางของที่ดินที่มีอาณาเขตติดคลองแม่ข่า ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ มีระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร เขตอำเภอหางดง มีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิในที่ดิน ที่มีราษฎรถือครองเป็นโฉนดที่ดินมีอาณาเขตติดต่อคลองแม่ข่า ซึ่งการรังวัดพื้นที่ดินเป็นไปตามหลักวิชาการ โดยยึดหลักฐานแผนที่โฉนดที่ดินของผู้ถือกรรมสิทธิ์ทุกราย

โดยผลการรังวัด พบว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน จำนวน 1,023 ราย มีการครอบครองตามหลักฐานโฉนดที่ดิน และพบว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ดิน จำนวน 132 ราย มีการครอบครองเกินจากหลักฐานโฉนดที่ดินและมีสิ่งปลูกสร้าง นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน จำนวน 14 ราย มีการครอบครองเกินจากหลักฐานโฉนดที่ดินและไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งการดำเนินการรังวัดสอบเขตแนวเขตคลองแม่ข่าครั้งนี้ ใช้งบดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 1,287,750 บาท

ด้านนายไฉน นาคทรัพย์ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ กล่าวว่า พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 ที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 แต่ข้อเท็จจริงได้ปรากฏให้เห็นถึงปัญหาด้านความพร้อมในการบังคับใช้กฎหมายของเจวมทั้งปัญหาด้านความรับรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎหายของประชาชน จึงได้ขยายระยะเวลาการดำเนินการตาม พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 ออกไปอีกระยะหนึ่ง ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2560 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยริมคลองแม่ข่ายื่นแสดงหลักฐานการครอบครองที่ดิน ซึ่งจะครบระยะเวลา 60 วันของการขยายเวลาในวันที่ 1 กันยายน 2560 หากผู้ครอบครองที่ดินไม่มายื่นแสดงหลักฐานก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

ทั้งนี้ ตามมาตรา 118 ทวิ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรา 117 หรือผู้ใดได้รับอนุญาตตามมาตรา 117 แล้วปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต ให้เจ้าท่ามีคำสั่งเป็นหนังสือแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสิ่งอื่นใดดังกล่าว รื้อถอนหรือแก้ไขอาคารให้เสร็จสิ้นโดยถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่น้อยกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่นในกรณีที่ไม่ปรากฏตัวเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร ให้เจ้าท่าปิดคำสั่งดังกล่าวไว้ ณ อาคารหรือสิ่งอื่นใดนั้น ซึ่งเมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนด ถ้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าท่า ให้เจ้าท่ามีอำนาจรื้อถอนหรือแก้ไขอาคารหรือสิ่งอื่นใดนั้นได้ทันที

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 1 กันยายน 2560 เมื่อผู้อาศัยริมคลองแม่ข่ามายื่นหลักฐานแสดงการครอบครองที่ดินแล้ว ก็จะดำเนินการเข้าไปตรวจสอบการถือครองที่ดินโดยละเอียดอีกครั้ง โดยยึดหลักฐานตามผลการรังวัดของสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ หากผู้อยู่อาศัยรายใดไม่มายื่นเอกสารหรือหลักฐานแสดงการครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้ต่อไป