ยอดจองโรงแรมเชียงใหม่ลดวูบ หวั่น”ฝุ่นพิษ”ทำสงกรานต์กร่อย!

9 จังหวัดภาคเหนืออ่วมหมอกควันพิษ ยอดจองโรงแรม ลองสเตย์ “เชียงใหม่-เชียงราย” ลดวูบ 15% หวั่นไฟป่าลามทำท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์กร่อย-กระทบยอดจองห้องพักข้ามปีของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลุ้นแก้วิกฤตจบใน 7 วันตามใบสั่ง “บิ๊กตู่” ด้าน “ประวิตร” นัดบอร์ด สวล.ถก 10 เม.ย.นี้

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วิกฤตหมอกควันพิษซึ่งเกิดขึ้นรุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 9 จังหวัด กระทบทั้งกับสุขภาพประชาชนและภาพรวมเศรษฐกิจทั้ง 9 จังหวัด เนื่องจากปีนี้สถานการณ์ที่รุนแรงกว่าปีก่อน ๆ แล้ว ระยะเวลายังยาวนานขึ้น แม้ในการแก้ไขปัญหาจะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมดำเนินการ แต่ไฟป่าที่ลุกลามหลายจุดยังกระทบในวงกว้าง

เหนือยอดจองลด 15%

ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ที่เห็นชัดเจนคือช่วงเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่หมอกควันรุนแรง ยอดจองห้องพักโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ลดลง 15% แต่ยังไม่พบการยกเลิกการจอง ขณะที่อัตราการจองห้องพักล่วงหน้าของจังหวัดเชียงใหม่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้อยู่ที่ 50% เทียบกับปกติยอดจองช่วงหยุดสงกรานต์ของทุกปีจะอยู่ 80-85% จึงต้องรอดูสถานการณ์ว่าช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ยอดจองส่วนที่ยังขาดจะเพิ่มเข้ามาอีก 35% หรือไม่ แต่หากสถานการณ์หมอกควันคลี่คลายคาดว่าตัวเลขการจองห้องพักจะมีถึง 80% เหมือนทุกปี

จอง รร.เชียงรายลด-หนีลองสเตย์

นายกิตติ ทิศสกุล รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์หมอกควันปี 2562 ถือว่าหนักหนาสาหัสและส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายมาก ขณะนี้อัตราการเข้าพักลดลงกว่า 10-20% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ต้องการเช่าพำนักระยะยาว หรือลองสเตย์ พบว่าส่วนใหญ่เลี่ยงการจองห้องพักในจังหวัดเชียงราย แต่ออกไปท่องเที่ยวนอกพื้นที่แทน เช่น ภาคใต้ กรุงเทพฯ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะผ่านพ้นปัญหาช่วงนี้ไปได้ และนักท่องเที่ยวที่รู้จักคุ้นเคยกับสภาพอากาศในจังหวัดเชียงรายเป็นอย่างดีจะทราบว่าฝุ่นละอองเกิดขึ้นช่วงสั้น ๆ หลังจากนี้จะหายไป จะกลับไปเยือนเชียงรายอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เป็นต้นไป

“ที่ผ่านมาภาคเอกชนให้ความร่วมมือในการฉีดพ่นน้ำ และสนับสนุนกิจกรรมอื่น ๆ ของจังหวัด เช่น แจกหน้ากากป้องกันฝุ่นควันพิษ อาสาสมัครช่วยเหลือทางการฯลฯ อย่างต่อเนื่อง และหวังว่าสถานการณ์หมอกควันจะค่อย ๆ เบาบางลง รวมทั้งแสวงหาข้อมูลข่าวสารเพื่อแจ้งให้กับผู้ประกอบการเพื่อแนะนำนักท่องเที่ยว”

หวั่นกระทบจองห้องพักข้ามปี

นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน) เปิดเผยในทำนองเดียวกันว่า สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงขณะนี้ยังอยู่ในช่วงวิกฤต และคาดว่ากว่าจะคลี่คลายอาจต้องใช้เวลาถึงเดือนพฤษภาคม โดยดูจากจุดฮอตสปอต หรือจุดที่มีความร้อนบนผิวโลกมากกว่าปกติ หรือพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ หากสถานการณ์ยังเป็นลักษณะนี้ในช่วงสงกรานต์อาจกระทบยอดจองห้องพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2563 ซึ่งส่วนใหญ่มักจองข้ามปี

นอกจากนี้หากเข้าใกล้เทศกาลสงกรานต์หมอกควันพิษยังรุนแรงนักท่องเที่ยวอาจจะลดลง แต่คงไม่กระทบต่อรายได้ภาคการท่องเที่ยวมากนัก เนื่องจากปัจจุบันภาพรวมยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว แต่ใช้วิธีสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันผลกระทบ

นายกฯสั่งแก้หมอกควันใน 7 วัน

ขณะเดียวกันวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่เพื่อตรวจเยี่ยมและประชุมรับฟังปัญหาประเด็นวิกฤตหมอกควัน โดยประกาศชัดเจนว่า ภายในระยะเวลา 7 วัน ปัญหาหมอกควันพิษต้องหมดไปจากพื้นที่ ถือเป็นข่าวดีของชาวเชียงใหม่และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเชื่อมั่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยจะกลับมาท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวเชียงใหม่ช่วงใกล้เทศกาลสำคัญเป็นหลัก

“ประวิตร” นัดถกบอร์ด สวล.

ด้านความเคลื่อนไหวของภาครัฐ นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วันที่ 10 เมษายนนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะหารือประเด็นปัญหาหมอกควันพิษ โดยจะมีการเสนอรายงานสถานการณ์การติดตามฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 และความคืบหน้าในการดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง และยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ

นอกจากนี้เมื่อ 31 มีนาคม พลเอกศิวะ ภระมรทัต ราชองครักษ์ในพระองค์ 904 ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการใหญ่ โครงการจิตอาสาพระราชทาน ตามแนวพระราชดำริ เราทำความดีด้วยหัวใจ ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมติดตามสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า และหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า 9 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่า ต้องเร่งดับไฟที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการลุกลาม และเปิดให้ประชาชนทั่วไปแจ้งเหตุไฟป่าได้ที่สายด่วน (hotline) เฝ้าระวังไฟป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯหมายเลข 1362

ส่วนพื้นที่เข้าถึงยาก เช่น ภูเขาสูง พื้นที่ลาดชัน ให้เน้นทำความเข้าใจกับชาวบ้านในหมู่บ้านโดยรอบ ขณะเดียวกันก็ให้เร่งสร้างเครือข่ายลาดตระเวน เฝ้าระวังในพื้นที่ไม่ให้เกิดไฟป่า พร้อมทั้งให้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ (ศูนย์ปฏิบัติการร่วม) บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน โดยมอบหมายให้ฝ่ายทหารเป็นผู้ปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะ CEO ในลักษณะ single command

ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้สนับสนุนการปฏิบัติการโดยสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่จากนอกพื้นที่เข้าร่วมปฏิบัติการ 2,000 คน พร้อมสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ ในภารกิจดับไฟป่า พร้อมมอบหมายให้รองอธิบดีกรมป่าไม้และรองอธิบดีกรมอุทยานฯ ร่วมปฏิบัติการช่วงภาวะวิกฤตต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

จุดความร้อนพุ่ง 6 พันจุด 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า รายงานข้อมูลการปกคลุมของหมอกควันและการคาดการณ์ความเร็วและทิศทางลม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ซึ่งประมวลข้อมูลโดยใช้ระบบดาวเทียมโมดีส (MODIS) ในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าเมื่อ 1 เมษายน 2562 คุณภาพอากาศปกคลุมไปด้วยหมอกควันหลายพื้นที่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ มีจุดความร้อน 325 จุด จากทั้งประเทศ 450 จุด จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือแม่ฮ่องสอน 114 จุด รองลงมาเป็นเชียงใหม่ 87 จุด, เชียงราย 39 จุด, ลำปางตาก และ จ.น่าน จังหวัดละ 22 จุด ฯลฯ แบ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์สูงสุด 178 จุด รองลงมาเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 121 จุดและพื้นที่ชุมชน 14 จุดประเมินจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ดังกล่าว ช่วง 4 เดือนแรกปีนี้มีทั้งหมด 6,069 จุด สูงสุดในรอบ 3 ปี นับจากปี 2558 ที่เคยสูงถึง 7,227 จุด และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 4,722 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1,347 จุด

ทั้งนี้ จากข้อมูลดาวเทียม LANDSTAR-8 พบร่องรอยพื้นที่เผาไหม้รวม 1,960,633 ไร่ โดย จ.ตากมีร่องรอยการเผามากที่สุด 570,021 ไร่ รองลงมา ลำปาง 442,590 ไร่ แพร่ 318,641 ไร่  เชียงใหม่ 174,169 ไร่ ฯลฯ

คลิกอ่านเพิ่มเติม… บิ๊กตู่ สั่งเร่งรัดแก้ปัญหาหมอกควันเชียงใหม่จบใน 7 วัน 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!