“ม.แม่ฟ้าหลวง” รับเป็นตัวกลางเชื่อมอาเซียน ผุดเน็ตเวิร์กแก้ฝุ่นละออง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เป็นประธานในการจัดเสวนา “MFU Voice for Clean Air” โดยมีนายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายแพทย์เอกชัย คำลือ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายเศวตยนต์ ศรีสมุทร รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน หลังจากเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2562 มฟล.เคยออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันในภาคเหนือให้เห็นผลมาแล้ว

โดย รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า จากสภาพการณ์ดังกล่าวทำให้ มฟล.รับจะเป็นตัวกลางในการประสานทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดการจัดตั้งเครือข่ายท้องถิ่นและเครือข่ายนานาชาติเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเกิดและประสบปัญหาซ้ำซากทุกปีต่อไป ปัจจุบันมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาเซียนที่จังหวัดเชียงราย ทำให้ได้เห็นสภาพที่ชัดเจน จึงจะนำเสนอเรื่องนี้เข้าไปหารือ รวมถึงจะทำหนังสือถึงเลขาธิการอาเซียนและประธานอาเซียน ซึ่งในปีนี้ ไทยให้ขับเคลื่อนการจัดตั้งดังกล่าวต่อไปด้วย

นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ปีที่ผ่านๆ มา จ.เชียงราย สามารถแก้ไขปัญหาการเผาได้ดีมาก แต่ปีนี้กลับเพิ่มมากขึ้น 2 เท่าตัว ส่วนประเทศเพื่อนบ้านก็เกิดขึ้นกระจายและหนาแน่นมากเช่นกัน โดยพบว่าผู้ที่เข้าไปลงทุนคือคนไทย ที่ผ่านมาผู้นำระดับรัฐบาลกลางเคยหารือกันโดยตรง แต่เมื่อต้องปฏิบัติไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ได้ด้วยเหตุผลการปกครองในประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะเรื่องการปลูกพืชทดแทนหรือหลากหลายทั้งในฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

ด้านนายเศวตยนต์ ศรีสมุทร รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ปัญหาการเผาไหม้ในประเทศเพื่อนบ้านมีอยู่ในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย ดังนั้นกรณีที่จะใช้เวทีอาเซียนในการแก้ไขปัญหา และหากว่ายังไม่ได้ผลเพียงพอก็ควรใช้ด้านอื่นเข้าร่วม เช่น ด้านจิตวิญญานผ่านการเคารพสักการะของคนในพื้นที่ต่อครูบาบุญชุ่ม เป็นต้น หรือหาวิธีการใช้โมเดลในพื้นที่ที่ได้ผล เช่น ดอยผาหมี อ.แม่สาย ที่มีการปลูกกาแฟจนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของคนในพื้นที่ และทำให้ชาวบ้านดูแลไม่ให้เกิดการเผาได้ดีมาก ขณะที่ไทยยังต้องนำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศเพราะไม่เพียงพอต่อการบริโภค ดังนั้นรัฐอาจหาวิธีการส่งเสริมการปลูกในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนกัน คือ การเผาเพื่อเอาพื้นที่ทางการเกษตร แต่หากปลูกพืชเศรษฐกิจผสมผสาน จะทำให้ปัญหาการเผาลดลงเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องธรรมลังกา ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อระดมกำลังกันสกัดการเผา โดยตั้งเป้าในการวัดผลปฏิบัติภายใน 7 วัน จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2562 นี้ โดยจะพยายามไม่ให้มีการเผาหรือลดฮอตสปอตให้ได้มากที่สุด