เปรมสรณ์ ศรีวิบูลย์ชัย นำธงบ้าน “วีพี กรุ๊ป” ชูจุดเด่นปลูกบ้านตามใจลูกค้า

ระยองนับเป็นจังหวัดใหญ่ที่ถูกระบุในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งยังเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีมูลค่าสูง ซึ่งถูกวางรากฐานไว้ในอดีต ทำให้เกิดการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับประชากรที่เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “เปรมสรณ์ ศรีวิบูลย์ชัย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีพี เรียลเอสเตท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด และผู้บริหารกลุ่มบริษัท วีพี กรุ๊ป วัย 35 ปี ซึ่งแม้จะเพิ่งเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2556 แต่เป็นทุนท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญพื้นที่ เนื่องจากเป็นชาวระยองดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ทั้งโรงแรมและร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า

เปรมสรณ์เล่าว่า ในปี 2561 วีพี กรุ๊ปมีรายได้อยู่ที่ 150 ล้านบาท และคาดว่าปี 2562 จะมีรายได้ 500 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาดำเนินโครงการไปแล้วทั้งสิ้น 4 โครงการ ปิดการขายไปแล้ว 2 โครงการ กำลังดำเนินการและทำการขายอยู่ 2 โครงการ ได้แก่ The Pano 1 มาบข่า-ทับมา จำนวน 77 ยูนิต ทยอยโอนได้ราวครึ่งปีนี้ และคาดว่าจะปิดโครงการได้ภายในสิ้นปี และ Villa Park บ้านค่าย จำนวน 72 ยูนิต เริ่มทำการโอนได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และจะปิดโครงการได้ภายในสิ้นปีทั้ง 2 โครงการเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ ระดับราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท จนถึง 4 ล้านบาท ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวอยู่ที่ราคา 2-4 ล้านบาท ทาวน์โฮมอยู่ที่ราว 1 ล้าน แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท พื้นที่ 70-80 ตร.ม.

ส่วนโครงการที่มีแผนว่าจะจัดทำในปี 2562 คือ The Pano 2 เป็นสินค้าเจาะตลาดแมส ราคา 2-3 ล้านบาท บริเวณมาบข่า และนิคมพัฒนา มูลค่าโครงการ 150 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างช่วงกลางปี และคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2562 รวมระยะเวลาก่อสร้างราว 4 เดือน และจะเปิดจองในช่วงดังกล่าวมีจำนวน 70 ยูนิต

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 โครงการที่ทำร่วมกับบริษัท พิณสิริ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดตัวเป็นแบรนด์ใหม่ชื่อว่าบริษัท ไพร์ม พร๊อพเพอร์ตี้ แอสเซท จำกัด ได้แก่ Gallery Hill By The Prime บ้านเดี่ยวชั้นเดียวและสองชั้น จำนวน 99 ยูนิต ราคา 2-6 ล้านบาท บริเวณถนนสาย 36 ใกล้ PTT-GC เริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าแล้วเสร็จเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2562 และ The Prime Boulevard บ้านเดี่ยว 72 ยูนิต บริเวณ อ.เมือง จ.ระยอง เริ่มก่อสร้างช่วงกลางปี 2562 และจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ทั้ง 3 โครงการใช้เงินลงทุนราว 500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ใน 2-3 ปี

เน้นปรับแบบตามใจลูกค้า

เปรมสรณ์อธิบายว่า แนวคิดหลักที่ใช้ในการจัดทำบ้านจัดสรรของวีพี กรุ๊ป คือการสร้างบ้านตามใจลูกค้า เพราะช่วงแรกที่เข้ามาสานต่อกิจการโรงแรมของครอบครัว พบว่าลูกค้าจำนวนหนึ่งต้องการลงหลักปักฐานในระยองไม่เจอบ้านที่ถูกใจ เช่น บางครั้งส่วนกลางดี แต่ออกแบบไม่ดี หรือออกแบบดี แต่ส่วนกลางไม่ดี หรือบางโครงการไม่มีครัวให้ แต่มีท่อให้ สุดท้ายต้องต่อเติมหลังบ้านเอง ซึ่งพอต่อเติมแล้วประกันบ้านก็หมด จึงนำมาปรับใช้ในการทำบ้านในแบรนด์ให้มีครัวพร้อม และรับประกันโครงสร้างให้ ไม่จำเป็นต้องต่อเติม สามารถนำเฟอร์นิเจอร์เข้าแล้วอยู่ได้เลย รวมถึงโรงรถไม่จำเป็นต้องมาต่อเติมเพิ่ม เพราะทำโรงรถที่มีหลังคาคลุมรถทั้งคันให้

“แบบบ้านของวีพี กรุ๊ป จะเปลี่ยนทุกปีตามเทรนด์และโลเกชั่น ซึ่งหากลูกค้าต้องการปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่าง ๆ ในบ้าน สามารถทำให้ได้ไม่จำเป็นต้องโอนก่อนแล้วต่อเติมทีหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่ลูกค้าซึ่งกู้ผ่านแล้ว และยังไม่ได้ขึ้นโครงบ้าน สามารถขยับบ้านซ้าย-ขวาได้ ไปจนถึงการเลือกวันและฤกษ์ในการขึ้นบ้านได้อีกด้วย”

ในด้านคุณภาพของบ้าน วีพี กรุ๊ปติดต่อซื้อวัสดุต่าง ๆ โดยตรงกับทางบริษัทผู้ผลิต เช่น SCG ที่มีการใช้เกือบทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นหลังคา โครงหลังคา ปูน มีเพียงบางอย่างเท่านั้นที่ SCG ไม่มีจำหน่าย จึงจะใช้แบรนด์อื่น ๆ ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้ปะปนกัน เช่น American Standard และ Cotto เป็นต้น รวมไปถึงกระจก โครงหน้าต่าง ที่มีการดีลตรงกับผู้ผลิต เพื่อลดต้นทุนในสภาวะที่ราคาที่ดินสูงขึ้น นอกจากนี้ ครอบครัวทำกิจการร้านค้ามาก่อน ทำให้เราสามารถซื้อส่วนประกอบต่าง ๆ ได้ในราคาที่ถูกลง

“คอนเซ็ปต์คือไม่ได้สร้างบ้านเพื่อขาย แต่เป็นการทำบ้านให้อยู่อาศัย เราคัดเลือกแต่ของที่ดีมาให้ลูกค้า เพราะจังหวัดระยองนั้นคนจะทั่วถึงกันหมด หากเจอของที่มีปัญหา ลูกค้าจะสามารถเดินมาด่าได้ทันที จึงต้องทำให้ดีโดยโครงสร้างรับประกัน 5 ปีเต็ม”

“เข้าใจพื้นที่” จุดแข็งทุนท้องถิ่น

ส่วนข้อได้เปรียบของวีพี กรุ๊ปต่อบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ที่เริ่มบุกถิ่นจังหวัดระยองนั้น เปรมสรณ์อธิบายว่า วีพี กรุ๊ปจัดทำโครงการขนาดไม่เกิน 100 หลัง เป็นตลาดบ้านจัดสรรที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เหมาะกับลูกค้าในจังหวัดระยองที่ไม่ชอบที่อยู่อาศัยหนาแน่น รวมไปถึงมีความเข้าใจพื้นที่มากกว่า เช่น บางทำเลหากสำรวจในฤดูร้อนและฤดูหนาวจะไม่พบปัญหา แต่พอสร้างโครงการอยู่จริงพบว่าฤดูฝนจะมีกลิ่นเหม็น เนื่องจากอยู่ใกล้กับโรงงานมันสำปะหลัง เป็นต้น ซึ่งในจุดนี้เองที่ทุนมหาชนจากส่วนกลางอาจจะพลาดไปบ้างจากความไม่ชำนาญในพื้นที่

นอกจากนี้ วีพี กรุ๊ปยังมีการซื้อที่ดินเก็บ ทำให้สามารถซื้อที่ดินมาเป็นแลนด์แบงก์ได้ล่วงหน้า 1-2 ปี ซึ่งมีทำเลหลัก ๆ ในระยองเก็บไว้ทุกทำเลแล้ว ทั้งบ้านฉาง อำเภอเมือง มาบตาพุดใกล้แหล่งงาน บ้านค่าย มาบข่า รวมถึงตลาดท่องเที่ยวบริเวณบ้านเพ ริมทะเลก็ตาม ซึ่งรอจังหวะในการเลือกมาพัฒนา แม้ไม่ได้มีในปริมาณที่มากนัก แต่ยังมีสต๊อกเก็บไว้พอที่จะจัดทำโครงการได้ภายใน 10 ปี