นางวิภารัตน์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการส่วนแบบจำลองและประมาณการเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนมีนาคมและไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ยังขยายตัวได้ แม้ว่าจะชะลอลงจากไตรมาสก่อน นำโดยกรุงเทพและปริมณฑล ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน การลงทุนภาคเอกชนที่ยังขยายตัวในหลายภูมิภาค และการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องในทุกภูมิภาค สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี
นางวิภารัตน์กล่าวต่อว่า กทม.และปริมณฑล เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในเกือบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสมุทสาคร สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดี ส่วนภาคตะวันตก เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
นางวิภารัตน์กล่าวต่อว่า ภาคตะวันออก เศรษฐกิจขยายตัว จากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม และการบริโภคภาคเอกชน โดยจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ในเดือนมีนาคม 2562 ที่ยังคงอยู่เหนือระดับ 100 เป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 111.9 ส่วนภาคกลาง เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชน และอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยวช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ
นางวิภารัตน์กล่าวต่อว่า ภาคเหนือ เศรษฐกิจทรงตัว จากการขยายตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ สำหรับภาคใต้ เศรษฐกิจทรงตัว จากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม แต่การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวลดลง
นางวิภารัตน์กล่าวต่อว่า สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2562 (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร เป็นสำคัญ โดยดัชนีขยายตัวเกิน 50 ทุกตัว
นางวิภารัตน์กล่าวต่อว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ทิศทางการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับ 70.4 โดยใน 6 เดือนข้างหน้า จะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ประกอบกับมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและมีการขยายกิจการเพิ่มมากขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดีมาอยู่ที่ 70.4 จากแนวโน้มภาคการลงทุนและภาคการบริการที่ดี เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้น
นางวิภารัตน์กล่าวต่อว่า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขยายตัวจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 69.9 เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุน โดยภาคอุตสาหกรรม คาดว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวสินค้าเกษตรที่สำคัญ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนือมีทิศทางอยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 69.4 โดยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและบริการเป็นหลัก ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะขยายตัวตามแนวโน้มการลงทุนภาคอุตสาหกรรมที่ยังส่งสัญญาณดีสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ในส่วนของภาคบริการ คาดว่าปรับตัวดีขึ้นจากการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นจิ่ว เริ่มคลี่คลาย
นางวิภารัตน์กล่าวต่อว่า สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ มีแนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 66.7 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยคาดว่าภาคเกษตรจะขยายตัวจากผลผลิตยางพาราแลผลผลิตปาล์มน้ำมัน สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก มีแนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 60.0 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการเกษตรและภาคบริการเป็นหลัก สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 58.6 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม
ที่มา : มติชนออนไลน์