หอฯตรังชง กรอ.ขยายถนน “คลองเต็ง-เขาวิเศษ” 4 เลน

หอการค้าจังหวัดตรังชง กรอ.จังหวัดขยายถนน “คลองเต็ง-เขาวิเศษ” จาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 17 กม. หวังอำนวยความสะดวกขนส่งสินค้าเกษตร-เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ “วังนกน้ำ-วังผาเมฆ” หลังชาวบ้านร้องเรียนการสัญจรไปมาลำบาก

นายพิชัย มะนะสุทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัดตรัง ซึ่งมี นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธาน ทางหอการค้าฯได้เสนอขอให้มีการขยายถนนเส้นทางคลองเต็ง-เขาวิเศษ จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร เนื่องจากปัจจุบันถนนเส้นทางคลองเต็ง-สี่แยกนานอน-จิจิก-เขาวิเศษ ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ใช้ลำเลียงผลผลิตทางการเกษตร และเป็นเส้นทางที่จะเชื่อมไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอวังวิเศษ คือ วังนกน้ำ และวังผาเมฆ

“ที่ผ่านมาหอการค้าฯได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกบ่อยครั้งเรื่องเส้นทางคลองเต็ง ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง ถึงบ้านเขาวิเศษ ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ขาดการพัฒนามานาน ไม่มีการขยายขอบทาง ถนนแคบและยังมีโค้งเยอะ หากมีรถบรรทุกหรือรถใหญ่วิ่งบนถนน ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น ๆ จะไม่สามารถแซงได้ เวลาจะแซงทีก็ยากมาก นอกจากนี้ เส้นจราจรบนพื้นผิวถนน เช่น เส้นแบ่งช่องทางเดินรถ เส้นห้ามแซง ฯลฯ ยังมีสีซีดจาง หากเป็นช่วงเวลากลางคืนหรือฝนตกหนักแทบมองไม่เห็น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างมาก ไม่ปลอดภัย” นายพิชัยกล่าว

นายพิชัยกล่าวต่อไปว่า ในประเด็นนี้ ผู้แทนจากแขวงทางหลวงตรังได้ชี้แจงว่า ถนนเส้นนี้มีผิวจราจรกว้างข้างละ 3.50 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1 เมตร หากจะขยายต้องไปตามขั้นตอน คือ ขยายไหล่ทางออกเป็น 2.50 เมตร ไม่สามารถขยายก้าวกระโดดจาก 2 ช่องจราจร ไปเป็น 4 ช่องจราจรได้ ซึ่งการขยายไหล่ทางออกเป็นข้างละ 2.50 เมตร อยู่ในแผนของแขวงทางหลวงตรังแล้ว โดยมีการเสนอของบประมาณไปแล้ว อยู่ในลำดับที่ 20 ขณะนี้ยังไม่ได้รับงบประมาณ จากการที่แขวงทางหลวงตรังได้ทำการสำรวจปริมาณรถที่ใช้เส้นทางดังกล่าวล่าสุด มีจำนวน 6,300 คันต่อวัน มีรถบรรทุก 180 คัน รถพ่วง 46 คัน และรถกึ่งพ่วง 68 คัน การจะขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร ปริมาณรถต้องมีจำนวน 10,000 คันต่อวันขึ้นไป

ด้านนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ขอให้หอการค้าฯสำรวจข้อมูลที่สำคัญ และรายละเอียดของเส้นทางดังกล่าวให้ชัดเจน เช่น เส้นทางนี้มีสถานที่สำคัญ มีโรงงาน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง เป็นต้น และส่งให้แขวงทางหลวงโดยตรง เพื่อจะเป็นข้อมูลสนับสนุนผลักดันงบประมาณให้ได้เร็วขึ้น

“อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค ให้เพียงพอและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนตลอดจนผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง การขยายถนนสายดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญที่จะต้องเร่งช่วยกันผลักดันต่อไป ส่วนเรื่องเส้นจราจร ผู้แทนแขวงชี้แจงว่า ได้ขออนุมัติงบประมาณซื้อเครื่องตีเส้นจราจร ซึ่งกรมทางหลวงได้อนุมัติแล้ว ได้รับงบประมาณปลายปี 2562 ดังนั้นในปี 2563 จะเริ่มตีเส้นจราจรที่เลือนรางได้ประมาณ 100 กิโลเมตร เพราะงบฯที่ได้มาจะต้องใช้ในการซ่อมแซมผิวทางส่วนอื่น ๆ ด้วย” นายลือชัยกล่าว