เชียงรายผนึก ททท.-แอร์เอเชีย จัด “เทศกาลชา&กาแฟ” ก.ค.นี้

ในเดือนกรกฎาคมเป็นอีกช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของความเป็นเมืองแห่งชาและกาแฟในจังหวัดเชียงราย เพราะคือจุดแข็งของเมืองที่จะได้ส่งเสริมการพัฒนาผลผลิตและการตลาดของเกษตรกร ผู้ประกอบการควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปตลอดทั้งเดือนในงาน “เทศกาลชาและกาแฟเชียงราย 2019”

“ณรงค์ โรจนโสทร” รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จ.เชียงราย ได้บูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการพัฒนาธุรกิจการค้า การท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ศิลปิน ภาคประชาชน ฯลฯ จัดงาน “มหกรรมเทศกาลชาและกาแฟเชียงราย 2019” ภายใต้หัวข้อ “เมืองแห่งชาและกาแฟเชียงราย” ขึ้นตลอดเดือนกรกฎาคม 2562 เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม

โดย จ.เชียงราย ถือเป็นเมืองแห่งผลผลิตทางการเกษตรที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมากคือ ชาและกาแฟ ปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่ปลูกชารวมกันได้ประมาณ 53,000 ไร่ สามารถให้ผลผลิตออกสู่ตลาดปีละกว่า 30,000 ตัน และกาแฟมีการปลูกประมาณ 38,000 ไร่ สามารถให้ผลผลิตปีละกว่า 4,355 ตัน

สำหรับกิจกรรมตลอดเดือนประกอบด้วยสัปดาห์แรกเป็นการเปิดตัวเดือนแห่งชาและกาแฟ โดยทาง ททท.สำนักงานเชียงราย จะร่วมกับกลุ่มคนรักกาแฟเชียงรายและสายการบินไทยแอร์เอเชีย จัดเผยแพร่เมนูแนะนำร้านทั่วจังหวัดกว่า 40 ร้าน เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวไปชิมพร้อมประทับตราสัญลักษณ์ให้ครบ 6 ตรา เพื่อรับของที่ระลึกและลุ้นรับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ

จากนั้นสัปดาห์ที่ 2 เป็นการจัดประชุมนานาชาติและการประชุมการค้าการลงทุนอุตสาหกรรมชากาแฟในกลุ่มอาเซียนบวก 6 ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค. 2562 ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และต่อเนื่องด้วยการจัดงานเชียงราย อาเซียน คอฟฟี่ แอนด์ ที เฟสติวัล 2019 ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงรายต่อไป

ถัดจากนั้นในสัปดาห์ที่ 3 เป็นการจัดเจริญสติกับการดื่มชาระหว่างวันที่ 16-17 ก.ค. ที่ศูนย์ประชุม วิปัสสนา สากล ไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย โดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี และคณะโดยจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและฝึกฝนให้จิตเป็นสมาธิ ขณะที่สัปดาห์สุดท้ายเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ โดยสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือและเครือข่าย ซึ่งจะมีการจัดท่องเที่ยวทางศิลปะและสีสันแห่งชาระหว่างวันที่ 26-28 ก.ค.ตามพื้นที่ต่าง ๆ

“พนิดา ทิพย์ศักดิ์” พาณิชย์จังหวัดเชียงราย เล่าว่า ปัจจุบันแม้ว่าจะมีผลผลิตชาและกาแฟในพื้นที่จำนวนมาก แต่ยังคงต้องส่งเสริมและประชาสัมพันธ์กันให้แพร่หลายในระดับสากลด้วยว่าผลผลิตที่ จ.เชียงรายนั้นมีรูปแบบผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟอินทรีย์หรือออร์แกนิกเพื่อให้ทั่วโลกได้รับทราบ เพื่อจะได้ส่งเสริมให้มีผลผลิตคุณภาพออกสู่ตลาดโลกเนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยยังคงต้องนำเข้าผลผลิตกาแฟมากถึงปีละกว่า 50,000 ตัน ทั้ง ๆ ที่เรามีผลผลิตจำนวนมาก หากว่าสามารถผลักดันให้นำไปสู่การส่งออกได้อย่างน้อย 10% ของการนำเข้าจะเป็นผลดีอย่างมากต่อไป

ด้าน “กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย บอกว่า ตามปกติในช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นฤดูฝนซึ่งไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวโดยตรง และปัจจุบันตั้งชื่อให้เป็น “กรีนซีซั่น” ดังนั้นจึงต้องจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน จ.เชียงราย นอกเหนือจากการท่องเที่ยวภาคเหนือในช่วงฤดูหนาวเพียงอย่างเดียว ดังนั้นกิจกรรมครั้งนี้จึงถือเป็นการนำศักยภาพด้านการเกษตรที่มีอยู่ในพื้นที่มาส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวไปเยือน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก