ชาวสวนวอนรัฐแก้ กม.ผ่อนจุดแบ่งปันบี 100

ชาวปาล์มน้ำมันจี้รัฐแก้กฎหมายขายไบโอดีเซล บี 100 เสรี หลังเกษตรกรกระบี่แห่เปิด “จุดแบ่งปัน” จำหน่าย หวั่นผิดกฎหมายหลังรณรงค์ได้ผลคนหันใช้แทนดีเซลเพียบ

แหล่งข่าวจากชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า แม้ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามผลักดันให้หลายหน่วยงานหาแนวทางเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นสต๊อก โดยราคารับซื้อผลปาล์มทะลายเฉลี่ยประมาณ 2.30-2.70 บาทต่อ กก. ทั้งนี้ ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่คิดว่าการแก้ปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำที่ได้ผล คือ การนำมาผลิตไบโอดีเซล บี 100 แต่ภาครัฐต้องปลดล็อกกฎหมายโดยการแก้ พ.ร.บ.ธุรกิจพลังงานเรื่องความปลอดภัย พ.ศ. 2542 และ พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีการค้าขายไบโอดีเซล บี 100 อย่างเสรี เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ จ.กระบี่ได้ร่วมกันแก้ปัญหาด้วยตัวเองตั้งแต่การทำปาล์มคุณภาพ และการรณรงค์ให้ชาวสวนปาล์มหันมาใช้บี 100 แทนน้ำมันดีเซล ซึ่งตอนนี้มีการใช้กันมากขึ้น

โดยมีเกษตรกรบางส่วนทำการจัดตั้ง “จุดแบ่งปัน” จำหน่ายไบโอดีเซล บี 100 ขยายไปตามที่ต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งน่าเป็นห่วงเพราะเป็นการขัดต่อข้อกฎหมาย หากมีข้าราชการบางคนจ้องเอาผิดทางกฎหมายกับเกษตรกรที่เปิดจุดแบ่งปันยิ่งจะทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้น

ด้านนายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ ที่ผ่านมาภาครัฐไม่เคยมีความจริงใจ มีเพียงแต่ทำให้พ้น ๆ ไปในช่วงที่เกษตรกรออกมาประท้วง ทั้งการซื้อน้ำมันปาล์มดิบไปเผาเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า และการนำไปทำบี 7 บี 10 หรือบี 20 ล้วนแล้วแต่พูดกันเท่านั้นไม่ได้ทำกันจริงจัง การแก้ปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำที่ได้ผล 100% คือการนำมาผลิตไบโอดีเซล บี 100 ซึ่งชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่ได้ซื้อมาแบ่งปันให้เกษตรกรในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี เกษตรกรเริ่มให้ความสำคัญและเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะน้ำมันไบโอดีเซล บี 100 ใช้ได้จริงกับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป และไม่เคยมีปัญหากับเครื่องยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนคุณภาพดีกว่าน้ำมันดีเซลด้วยซ้ำ ซึ่งภาครัฐเองรู้ดี แต่ไม่กล้านำมาประกาศใช้ เพราะกลัวกระทบกับกลุ่มทุนที่จำหน่ายน้ำมันดีเซลอยู่

“หากว่ารัฐบาลส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 100 กันอย่างจริงจัง ก็ไม่ต้องกลัวน้ำมันปาล์มล้นสต๊อก ราคาผลผลิตตกต่ำ เชื่อว่าพื้นที่ปลูกเพียง 3 ล้านไร่ ในพื้นที่ จ.กระบี่ หากนำมาผลิตไบโอดีเซล บี 100 ไม่พออย่างแน่นอน เพราะตอนนี้โรงงานสกัดปาล์มน้ำมันทุกโรงรวมกันสามารถสกัดน้ำมันได้ประมาณ 2,300 ตัน/วันเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด และไม่ต้องเป็นกังวลว่ากลุ่มประเทศอียูจะไม่ซื้อน้ำมันปาล์ม เพราะเราปลูกเอง ผลิตเอง ใช้เอง ไม่เพียงพอ”

การนำน้ำมันไบโอดีเซล บี 100 ของเกษตรกรมาแบ่งปันให้แก่สมาชิก ทางรัฐบาลไม่ต้องสนับสนุนงบประมาณ และยังคืนกำไรให้เกษตรกรได้อีกลิตรละ 30 สตางค์ แต่ยังถูกกดดัน ต่างกับของกลุ่มทุนที่รัฐบาลส่งเสริมให้นำน้ำมันปาล์มไปเป็นส่วนผสมน้ำมันดีเซลเป็นบี 7 บี 10 บี 20 ซึ่งรัฐบาลต้องสนับสนุนส่วนต่างให้ ทำให้รัฐบาลเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ และว่าการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทำเป็นแบบอย่างไว้แล้ว แต่ไม่มีรัฐบาลไหนหันมาสนับสนุนและให้ความสำคัญอย่างจริงจังในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ

“สำหรับไบโอดีเซล บี 100 สามารถพัฒนาให้ดีกว่าน้ำมันดีเซล ไม่มีค่า PM 2.5 และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หากว่ารัฐบาลออกมาสนับสนุนอย่างจริงจัง จะไม่มีปัญหาเรื่องราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ ไม่ต้องเอาน้ำมันปาล์มไปเผาอย่างแน่นอน และหากว่าทางภาครัฐกำหนดเป็นนโยบายออกมาให้จังหวัดกระบี่เป็นเมืองไบโอดีเซล รณรงค์ให้ชาวกระบี่ใช้ไบโอดีเซล เชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่ใช้น้ำมันดีเซลหันมาใช้ไบโอดีเซลเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องไปคิดนโยบายให้ซับซ้อน ซึ่งจะส่งผลต่อราคาผลปาล์มของเกษตรกรให้สูงขึ้นด้วย”

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กฎหมายมีข้อกำหนดพอสรุปได้ว่า การผลิตบี 100 เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ต้องมีคุณภาพเป็นไปตามข้อกำหนดที่กรมธุรกิจพลังงานประกาศกำหนดไว้ 24 รายการ แต่การผลิตบี 100 ในลักษณะไบโอดีเซลชุมชน โดยสหกรณ์เพื่อขายในหมู่บ้านสเป็กจะหย่อนให้สามารถทำได้ ทั้งนี้ ข้อกำหนดไบโอดีเซลชุมชนกำหนดให้ใช้กับเครื่องจักรกลทางการเกษตร แต่หากมีการจำหน่ายเพื่อไปใช้กับรถยนต์ถือว่ามีความผิด และหากเครื่องยนต์เสียหายจะไปเคลมกับทางบริษัทที่จำหน่ายรถไม่ได้