ยาสตรีเพ็ญภาค โต 150-200% ต่อปี เผย 2561 รายได้ 800 ล้านบาท ลุยต่อปักธงลุยตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปี 2562 ลองตลาดอาเซียน-ดีลญี่ปุ่น พร้อมดึง “ปู่จ๋านลองไมค์” แรปเปอร์วัยรุ่นเจาะตลาดวัยกลางคน หวังเป็นที่รู้จักวงกว้าง ชูจุดขายเครื่องดื่มชูกำลังผสมสมุนไพรธรรมชาติ
ม.ร.ว.สุทธิพัฒน์ ยุคล ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกระหว่างประเทศ บริษัท ขายยาเพ็ญภาค จำกัด จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า แบรนด์พญานาคปัจจุบันเข้าปีที่ 101 แล้ว ภาพรวมเติบโต 150-200% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ในปี 2561 มีรายได้ประมาณ 700-800 ล้านบาท/ปี โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ขายยาเพ็ญภาค ประกอบด้วย ยาสตรี ยาบำรุง ยาแก้ปวดเมื่อย และแคปซูลยาสตรี
ทั้งนี้ ได้จัดทำผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุด คือ เครื่องดื่มชูกำลังตราพญานาค เริ่มจัดจำหน่ายเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2561 ซึ่งที่ผ่านมามีการวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อเกือบทุกแบรนด์แล้ว ได้แก่ แม็คโคร แฟมิลี่มาร์ท เซเว่นอีเลฟเว่น ลอว์สัน ซีเจซุปเปอร์มาร์เก็ต 108 ช็อป แม็กซ์มาร์ท และจิฟฟี่ แต่ที่ผ่านมาผลการตอบรับในช่วงแรกยังไม่ดีนัก
แต่เมื่อผู้บริโภคได้ลองแล้วพบว่าผลการตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ในปีนี้ทางบริษัทจะทำการตลาดอย่างเต็มที่ คาดว่าจะสามารถรับรู้ยอดรายได้การเติบโตภายในสิ้นปี 2562 อย่างไรก็ตาม มีความคาดหวังว่าผลิตภัณฑ์จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังจากการแสดงผลิตภัณฑ์ในงาน THAIFEX 2019 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ในด้านการส่งออก บริษัทกำลังอยู่ในช่วงทดลองตลาด โดยส่งออกไปที่กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม ขณะเดียวกันมีลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แสดงความสนใจในเครื่องดื่มสมุนไพรติดต่อเข้ามา โดยญี่ปุ่นมีโอกาสส่งออกได้สูงถึง 70% ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการในส่วนของกระบวนการขออนุญาตนำเข้าอาหารของประเทศญี่ปุ่น
“ผลการตอบรับในช่วงแรกอาจสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นของบริษัท ที่สร้างภาพจำให้แบรนด์พญานาคเป็นยาที่น่าจะทานยาก รวมถึงความไม่แน่ใจว่าจะมีรสชาติเป็นอย่างไร” ม.ร.ว.สุทธิพัฒน์กล่าว
“แต่พอได้ลองชิม ความสนใจค่อนข้างจะเป็นบวก เพราะยอดขายดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่วัดยาก เพราะว่าเราเปิดตัวมาไตรมาสสุดท้าย เราจึงต้องมาวัดยอดขายกันที่ปีนี้ ว่าตลาดจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร เติบโตเท่าไร นอกจากนี้ยังมีตลาดส่งออก ซึ่งเราต้องวัดหลังจากงาน THAIFEX 2019 ว่า ผลตอบรับเป็นอย่างไร”
ดึงแรปเปอร์เจาะตลาด B ถึง B+
ม.ร.ว.สุทธิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนแคมเปญส่งเสริมการตลาดปีนี้ มีการดึง “ปู่จ๋านลองไมค์” ศิลปินแรปเปอร์เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เนื่องจากที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ยาของบริษัทมีกลุ่มลูกค้าในแนวฐานราก และกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
เมื่อออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง จึงตั้งเป้าจะขยายกลุ่มเป้าหมายจากเดิม ให้ครอบคลุมกลุ่มคนที่มีรายได้มากกว่ากลุ่มเดิม ไปสู่กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง หรือประมาณลูกค้าระดับ B จนถึง B+ เช่น กลุ่มวัยเรียนที่อายุมากกว่า 20 ปี หรือวัยทำงาน เนื่องจากตัวปู่จ๋านลองไมค์เองมีกลุ่มผู้ติดตามและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ชูจุดขายสมุนไพรบำรุงร่างกาย
ส่วนจุดเด่นของเครื่องดื่มชูกำลังพญานาค ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ม.ร.ว.สุทธิพัฒน์อธิบายว่า จะมีความหวานน้อยกว่า และไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่ง รวมถึงมีการใช้สมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีรสชาติเป็นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยสมุนไพรที่ใช้ในเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์พญานาคนั้นมีหลายตัว
แต่ตัวที่เป็นตัวหลักนั้น ได้แก่ กระชายดำ ที่ช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด คำฝอย ที่ช่วยเรื่องชะลอวัย ลดไขมันในเลือด มะขามป้อม ช่วยให้สดชื่นแก้กระหาย อบเชย ควบคุมไขมันในเลือด และชะเอม ต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงแก้อาการอ่อนเพลีย โดยวัตถุดิบมีที่มาหลากหลายทั้งจากประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศจีน และภายในประเทศไทย
โดยกาเฟอีนที่ใช้เป็นส่วนประกอบจะเป็นการสกัดจากพืชกัวราน่า ซึ่งมีกาเฟอีนเทียบเท่ากับเมล็ดกาแฟ ทำให้ใน 1 ขวดของเครื่องดื่มพญานาค ให้กาเฟอีนในปริมาณที่เทียบเท่ากับเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์อื่น ๆ
กล่าวคือ สรรพคุณเหมือนเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์อื่น ๆ เพียงแต่จะมีการอัดแก๊สเพิ่มความซ่า ในรูปแบบเดียวกันกับเรดบูลกระป๋องที่ขายในต่างประเทศ และชาร์ค
ในด้านการผลิตมีการติดต่อทำคอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่งซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในประเทศไทย เช่น รากชะเอม ที่ติดต่อซื้อจากเกษตรกรในจังหวัดอุดรธานี ยโสธร และเพชรบูรณ์ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่มีการนำส่วนรากมาใช้ประโยชน์ โปรเจ็กต์นี้ทำมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว อยู่ที่ว่าพืชชนิดไหนขึ้นได้ดีในพื้นที่ใด