ทุนท้องถิ่นผุดไอเดีย ‘คอนโดไม้ไผ่’ รับนักท่องเที่ยวชมดอยนางนอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในปัจจุบันที่หมู่บ้านป่าแฝ ต.โป่งผา หมู่ 3 อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีนักธุรกิจท้องถิ่นที่กำลังสร้างบ้านพักหรือโฮมสเตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้สร้างอาคารทรงสูงคล้ายคอนโดมิเนียมหรือตึกสูงแต่เป็นอาคารที่สร้างจากไม้ไผ่ล้วนๆ ตั้งแต่ส่วนฐานรากไปจนถึงอาคารด้านบนโดยมีความสูงเท่าตึก 4-5 ชั้นหรือเกือบ 20 เมตร และแต่ละชั้นมีที่นั่งและช่องสำหรับชมทิวทัศน์ได้โดยรอบซึ่งเป็นทุ่งนาและหมู่บ้านในชนบทรวมทั้งด้านฝั่งทิศตะวันตกเป็นเทือกเขาดอยนางนอนที่ทอดยาวเป็นระยะทางไกลด้วย ซึ่งผู้ที่พบเห็นต่างให้ความสนใจและเดินทางไปตามถนนพหลโยธินก่อนถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ก็เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะพบอาคารดังกล่าวตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางทุ่งนาของหมู่บ้าน

ปัจจุบันอาคารไม้ไผ่หรือคอนโดไม้ไผ่ดังกล่าวมีนายขวัญณรงค์ ขวาเมืองพาน ชาวบ้านท้องถิ่นเป็นเจ้าของโดยให้บริการจำหน่ายกาแฟ ชา ขนมจีนน้ำเงี้ยว ฯลฯ ที่ใต้คอนโดไม้ไผ่ดังกล่าวเพื่อรองรับผู้ไปเยือน ส่วนอาคารไม้ไผ่เองพบว่ามีผู้สนใจขออนุญาตขึ้นไปชมทิวทัศน์ด้านบนซึ่งนายขวัญณรงค์ก็อนุญาตให้ขึ้นไปซึ่งพบว่ามีการก่อสร้างอย่างมั่นคงแข็งแรงด้วยการใช้เชือกมัดไม้แบบไขว้ตามภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินจากชั้นล่างไปจนถึงชั้น 4 ได้โดยมีที่นั่งและช่องมองทิวทัศน์ได้ทุกทิศทาง

นายขวัญณรงค์ กล่าวว่า คอนโดไม้ไผ่ดังกล่าวมีชื่อว่า “นางนอนเบสแคมป์” สร้างขึ้นบนที่ดินมรดกของครอบครัวประมาณ 10 ไร่ โดยเดิมตนคิดจะสร้างเป็นโฮมสเตย์ปกติทั่วไปเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน ต.โป่งผา เนื่องจากตนเคยเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คน ที่ประสบเหตุติดอยู่ในถ้ำหลวงเมื่อกลางปี 2561 โดยตนเป็นชุดแรกๆ ที่เข้าไปในถ้ำเพราะเป็นคนท้องถิ่นที่ชำนาญบริเวณถ้ำอยู่แล้ว

กระทั่งต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเด็กๆ ทั้งหมดออกมาได้แล้วและมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางไปเยือนถ้ำหลวงมากขึ้น ทำให้ตนอยากให้ผู้ไปเยือนได้เห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาดอยนางนอนได้อย่างชัดเจนในระยะไกล จึงได้คิดสร้างโฮมสเตย์บนที่ดินดังกล่าว โดยเริ่มก่อสร้างวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมาร่วมกับช่างพื้นบ้านในท้องถิ่น แต่เมื่อสร้างไปแล้วพบว่าหากทำเป็นหอสูงขึ้นจะเห็นทิวทัศน์ชัดเจนจึงทำสูงขึ้นไปอีกซึ่งยืนยันในความแข็งแรงสามารถรองรับคนได้ประมาณ 200 คน

นายขวัญณรงค์ กล่าวอีกว่า เดิมมีกำหนดจะเปิดให้บริการเป็นโฮมสเตย์และบริการด้านอื่นๆ เต็มรูปแบบราวฤดูหนาวหรือปลายปี 2562 นี้ แต่ปรากฎว่าขณะที่ก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็มีผู้คนไปชมกันบ้างแล้วซึ่งตนก็อนุญาตให้ขึ้นไปได้เพราะโครงสร้างหลักถือว่าเสร็จหมดแล้ว ส่วนในอนาคตคงจะต้องมีการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นเพราะปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จก็มีคนเริ่มเข้าไปแล้ว โดยได้ประชุมหารือกับชาวบ้านในการจัดหาสถานที่จอดรถ และหารายได้เพื่อนำส่วนหนึ่งไปพัฒนาวัดในพื้นที่ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าทางผู้ใหญ่บ้านจะเห็นสมควรต่อไป