ผลิตภัณฑ์กระดาษ “พระอาทิตย์” โตทะลุ 100 ล้านรับกระแสอนุรักษ์ ชูสินค้าคุณภาพ เจาะตลาดนัด

สัมภาษณ์

การตื่นตัวให้คนหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ ทดแทนการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกที่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนาน ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษได้รับอานิสงส์กลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยเฉพาะการใส่อาหารประเภทต่าง ๆ ที่มีการขายทั่วประเทศ

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์ “โสภณ ถาวรกิจพาณิช” ประธานบริหาร บริษัท ซันเปเปอร์ แพคเกจจิ้ง 59 จํากัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษบรรจุอาหารตราพระอาทิตย์ บริษัทกระดาษใน อ.บางเลน จ.นครปฐม พร้อมบุตรชายคนโต “ธนบูรณ์ ถาวรกิจพาณิช” ทายาทรุ่นที่ 2 ที่เข้ามาช่วยงานในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปและกรรมการบริหาร หลังจากเพิ่งย้ายฐานการผลิตจาก อ.บางกรวย จ.นนทบุรี มาเมื่อเดือนตุลาคม 2560 โดยได้ฉายภาพทิศทางการเติบโตของธุรกิจที่จะก้าวหน้าไปพร้อมกับการเติบโตของธุรกิจอาหารในประเทศไทย

โสภณกล่าวว่า ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น กระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาแรง มีการรณรงค์ลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกมาบรรจุอาหาร ส่งผลให้ยอดขายบรรจุภัณฑ์กระดาษของบริษัทที่เดิมขายได้ประมาณ 7-8 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าภายในปี 2562 ยอดขายรวมจะสามารถขึ้นไปได้ถึง 100 ล้านบาท ดังนั้น หลังจากย้ายฐานการผลิตมาที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม ทำให้บริษัทมีพื้นที่กว้างขวางในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น มีการซื้อเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มาก

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทได้มีการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หลังจากลูกชายคนโตและคนรองเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม (SMEs) ในแวดวงสตรีตฟู้ด เช่น กระดาษห่อเบอร์เกอร์ และถุงกระดาษ รวมถึงกล่องกระดาษรูปแบบต่าง ๆ จากเดิมที่ขายเพียงกระดาษห่อโรตี ข้าวมันไก่ กระดาษเคลือบ-ใบตองเทียม และกระดาษรองเข่งผลไม้

แตกไลน์สินค้า

ด้านธนบูรณ์บุตรชายเล่าว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 2562 คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 40-50% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันสินค้าของบริษัท แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก 1.กระดาษรองอาหาร 2.กระดาษบรรจุอาหาร 3.ถุงกระดาษไม่มีหูหิ้ว 4.ถุงกระดาษมีหูหิ้ว โดยกำลังการผลิตตอนนี้ยังไม่เพียงพอ และโอเวอร์โหลด โดยมีพนักงานรวมทั้งหมด 40 คน ส่วนการขยายกำลังการผลิตนั้นจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่ม หากตลาดขยายตัวมากขึ้น

สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท คือ ตลาดแมสถึงตลาดกลาง ในกลุ่มผู้ประกอบการขายอาหารรายย่อย เช่น โรตี ปาท่องโก๋ ข้าวมันไก่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าดั้งเดิม ในส่วนลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ได้แก่ เครือเบทาโกร และในหมวดโรงแรม เช่น โรงแรมสวิสโซเทล (Swissotel) และโรงแรมพูลแมน (Pullman) ในกลุ่มสินค้าประเภทกระดาษรอง และกระดาษห่ออาหาร นอกจากนี้ยังมีในส่วนร้านอาหาร เช่น กุ้งถัง โดยจะเน้นไปที่กระดาษรองอาหาร เป็นต้น

ชูจุดขายฟู้ดเกรด-ราคาถูก

กลยุทธ์ในการทำตลาดของบริษัทเราจะเน้นสินค้าที่มีวัตถุดิบคุณภาพในระดับใกล้เคียงกับตลาดบน แล้วขายในราคาตลาดแมส ระดับตลาดนัดสามารถเข้าถึงได้ โดยวัตถุดิบสั่งซื้อจากต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น และประเทศทางยุโรป เนื่องจากต้นไม้ที่นำมาใช้ในการผลิตในแต่ละภูมิภาคของโลกไม่เหมือนกัน แต่ละชนิดสามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายแตกต่างกันไป รวมถึงเป็นแหล่งวัตถุดิบต้องได้มาตรฐาน food grade หรือสามารถสัมผัสอาหารได้

หากเป็นกระดาษรีไซเคิลที่หาในประเทศไทยก็ต้องไม่ใส่สารฟอกสี และสารเรืองแสง เพื่อให้สามารถใช้กับอาหารได้โดยไม่เกิดปัญหาต่อสุขภาพ ทั้งนี้ บริษัทสามารถขายสินค้าในราคาถูกได้ เนื่องจากขายและผลิตสินค้าหลากหลายประเภท ทำให้มีต้นทุนการผลิตต่ำ โดยทิศทางการตลาดในอนาคตยังคงยึดแนวทางเจาะกลุ่มตลาดแมส เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ถนัด และมีประสบการณ์

ในส่วนการบริการเสริม นอกจากการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษเพื่อการบรรจุอาหารแล้วนั้น ทางบริษัทยังมีบริการออกแบบ สกรีนลาย และสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะในสินค้ากลุ่มถุงและกล่องกระดาษที่สามารถใช้ใส่เครื่องสำอาง กิฟต์ช็อป และ SMEs กลุ่มสตรีตฟู้ด เป็นต้น เพราะในปัจจุบันมี SMEs เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้มีการคิดค้นบรรจุภัณฑ์หลากหลายขึ้นมารองรับ

ปรับตัวสู้ตลาดออนไลน์

สำหรับอัตราส่วนการตลาดนั้น ธนบูรณ์เล่าเพิ่มเติมว่า แบ่งเป็นออนไลน์ 20% ออฟไลน์ 80% เนื่องจากสินค้าจำพวกถุงกระดาษใส่อาหารของบริษัท จำเป็นต้องได้เห็น ได้สัมผัส และทดลองนำไปบรรจุจริง ยกตัวอย่าง หากต้องการซื้อถุงไปใส่ขนมปังของร้าน จำเป็นต้องนำถุงกระดาษไปทดลองใส่จริง แต่หากการขายในตลาดออนไลน์ที่มีระบบเก็บเงินปลายทาง อาจจะทำให้อัตราส่วนการขายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพราะลูกค้าได้เห็นและทดลองสินค้า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีลักษณะการขายเพื่อนำไปประกอบธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องเห็น ดีไซน์ และระบุความต้องการได้ ต่างจากสินค้าอุปโภค-บริโภคอื่น ๆ

“ขณะนี้อยู่ในช่วงการทำตลาดควบคู่ ทั้งขายออฟไลน์ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม ในขณะเดียวกันต้องทำด้านออนไลน์เพื่อให้ตอบโจทย์ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยมีการขายผ่านเว็บไซต์บริษัท เฟซบุ๊ก และลาซาด้า ซึ่งยอดขายเพิ่มขึ้นอยู่แล้วในแต่ละปี กำลังดูผ่านแพลตฟอร์มช้อปปี้ เพื่อขยายให้ครบทุกช่องทางในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการขายไปสู่ต่างประเทศ โดยลูกค้าซื้อไปขายต่อยังประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว เป็นสินค้าถุงกระดาษลักษณะถุงแมคโดนัลด์ เป็นลักษณะการขายต่อ”