หอการค้าฯ เชียงใหม่ชี้เศรษฐกิจชะลอตัว ดัน local food กระตุ้นเกษตรเชื่อมท่องเที่ยว

หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรก 2562 ชะลอตัว นักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนแผนการเดินทางเทไปเวียดนาม – กัมพูชาแทน ขณะที่แนวโน้มช่วงต้นครึ่งปีหลังนักท่องเที่ยวสวิงตัวกลับ ทั้งเอเชีย สหรัฐ และยุโรป เพิ่มขึ้น 17.5  ชี้แนวโน้มครึ่งปีหลังรัฐบาลใหม่ต้องเร่งกระตุ้นกำลังซื้อ และกระตุ้นการลงทุนขนาดใหญ่ในพื้นที่ เร่งภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นที่ดันเชียงใหม่ Local Food เชื่อมการท่องเที่ยว, การผลักดันองค์กร Chiang Mai Mice Bureau บริหารธุรกิจไมซ์, การเชื่อมโยงเศรษฐกิจบ้านพี่เมืองน้อง-ตลาดต่างประเทศ, การพัฒนาการค้าชายแดนเชื่อมเชียงราย-แม่ฮ่องสอน ,การผลักดันให้เกิดเมืองการบินภาคเหนือ (Chiang Mai Aerotropolis) รับสนามบินแห่งใหม่

นายวโรดม  ปิฎกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 และแนวโน้มครึ่งปีหลังว่า ภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจและการเงินจังหวัดเชียงใหม่ชะลอลงมากจากไตรมาสก่อน โดยมีองค์ประกอบสำคัญที่ชะลอตัวลงลงได้แก่ การลงทุนภาคเอกชนลดลงทั้งการลงทุนก่อสร้างและการผลิต  การใช้จ่ายภาครัฐ  รายได้เกษตรกรหดตัวตามผลผลิต การบริโภคภาคเอกชนซบเซาโดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามถือว่าการท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นมากช่วงปลายไตรมาสทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทย

ส่วนแนวโน้มในครึ่งปีหลังขึ้นอยู่กับมาตรการและนโยบายกระตุ้นของภาครัฐเป็นเรื่องหลักในเรื่องการกระตุ้นกำลังซื้อภาคชาวบ้านผ่านราคาสินค้าเกษตร และกำลังซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย การกระตุ้นด้านการคลัง เพิ่มการใช้จ่าย  ทดแทนการลงทุนภาคเอกชน ที่ยังรอดูท่าที  รวมถึงดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนและสามารถแข่งขันได้

ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่กล่าวอีกว่า การเร่งรัดโครงการโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และภาคเหนือ ทั้งการ รถไฟฟ้าในเมือง สนามบินแห่งใหม่เร่งรัดให้เร็วขึ้น ให้กำหนดเปิดปี 2580 หากทำได้เร็วก็จะทำให้มีเม็ดเงินออกมาเร็ว และเป็นข่าวดีที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงได้เริ่มดำเนินการแล้ว หอการค้าฯ ก็ได้นำเสนอเรื่องการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ในการออกแบบโครงการให้เกิดประโยชน์กับพื้นที่มากที่สุดเนื่องจากมีงบประมาณมากกว่า 1 แสนล้านบาท เช่น เส้นทางส่วนต่อขยาย การพัฒนาพื้นที่ TOD การบริหารจัดการในพื้นที่เป็นต้น

ด้านการเกษตร ถือว่ารายได้เกษตรกรหดตัวตามผลผลิตเกษตรสำคัญลดลงจากภาวะฝนทิ้งช่วง เช่น ลิ้นจี่และลำไย คาดว่าผลผลิตลำไยจะลดลงถึงร้อยละ 20-30 จากปีก่อน ผลผลิตข้าวลดลง เนื่องจากเกษตรกรบางส่วนเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ราคาจูงใจกว่า ราคาลิ้นจี่ขยายตัวเล็กน้อย จากปริมาณผลผลิตที่ลดลง ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวได้มากที่สุดในช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม ถึงวันที่ 10 มิถุนายนนี้ มีปริมาณออกสู่ตลาดประมาณ 13,604 ตัน ราคาข้าวทรงตัว ราคาลำไยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นบ้าง เนื่องจากกำลังซื้อของจีนไม่เข้มแข็งและค่าเงินหยวนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาท โดยลำไยจะให้ผลผลิตมากที่สุดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคมนี้ โดยให้ผลผลิตประมาณ 261,225 ตัน แต่สำหรับราคาปศุสัตว์เพิ่มสูง จากการปรับลดการผลิตหลังราคาตกต่ำและปัญหาโรคระบาดสัตว์ในต่างประเทศ

“หอการค้าฯ ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรที่จะเชื่อมโยงกับการการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ ซึ่งจะได้เปิดตัวโครงการเชียงใหม่ Local Food ในช่วงปลายปีนี้ นำผลผลิตสินค้าเกษตรของเชียงใหม่บุกทำตลาดในพื้นที่และกรุงเทพฯ ผ่านช่องทางซุปเปอร์มาร์เก็ตและโมเดิร์นเทรด เพื่อเป็นการส่งเสริมมาตรฐานและการต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโดดเด่นและมีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงส่งเสริมพืชเศรษฐกิจใหม”

ด้านการท่องเที่ยว พบว่าชะลอตัวลงช่วงต้นไตรมาส จากผลกระทบของหมอกควัน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเปลี่ยนแผนการเดินทาง จำนวนนักท่องเที่ยวจีนก็ชะลอตัวช่วงกลางไตรมาสจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ที่ดานัง ฮานอย เป็นต้น กัมพูชา บริเวณเกาะกง ซึ่งนักธุรกิจจีนก็ไปส่งเสริมไว้เช่นกัน แข่งกับ พัทยา ภูเก็ต แต่ช่วงปลายไตรมาสนักท่องเที่ยวไทยและจีนปรับตัวดีขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ขยายตัวดี ได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ยุโรปและเอเชียอื่น ๆ พิจารณาจากจำนวนนักท่องเที่ยวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานเชียงใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 จากปีก่อนและอัตราการเข้า พักของโรงแรมก็เพิ่มขึ้น  อย่างไรก็ตามหอการค้าฯ จะได้เร่งจัด Road Show ร่วมกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเพื่อทำตลาดในประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลายประเทศ ทั้งในส่วนตะวันออกกลาง จีน และในอาเซียน เป็นต้น

ด้านการลงทุนภาคเอกชน ส่วนนี้ถือว่าซบเซาทั้งการก่อสร้างและการลงทุนการผลิต  ด้านอสังหาริมทรัพย์มีการลงทุนเพิ่มเฉพาะที่รองรับความต้องการลูกค้าต่างชาติเป็นสำคัญ การซื้อบ้านอยู่อาศัยและคอนโดมิเนียมของลูกค้าชาวไทยทรงตัวจากช่วงก่อนหน้า

ทั้งนี้ทางหอการค้าเชียงใหม่ได้นำเสนอประเด็นด้านอสังหาริมรัพย์ถึง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  เรื่อง ผลกระทบจากเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (loan to value ratio-LTV ratio)  ที่ภาคเอกชนมองว่ามาตรการดังกล่าวเริ่มมีผลกระทบต่อการขายโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ เนื่องจากทำให้ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินมากขึ้น และยอดขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง จึงเสนอแนะให้ลดผลกระทบให้ผู้ประกอบการ เช่น ลดภาษีการโอนต่าง ๆ เป็นต้น

สอดคล้องกับข้อมูลการใช้จ่ายเอกชน ที่ซบเซา เนื่องจากขาดกำลังซื้อ แต่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการใช้จ่ายจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีส่วนพยุงกำลังซื้อได้บ้าง สำหรับการใช้จ่ายสินค้าคงทนประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทรงตัวในเกณฑ์ดี  โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์และการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ on-line

นายวโรดม กล่าวว่า แผนงานของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่จะเร่งดำเนินโครงการและกิจกรรมที่กระตุ้นเศรษฐกิจเชียงใหม่  ได้แก่ ธุรกิจด้านไมซ์ โดยการผลักดันด้านการบริหารจัดการธุรกิจด้านการจัดการประชุมและแสดงสินค้าครบวงจรในลักษณะ Chiang Mai Mice Bureau)   การเชื่อมโยงเศรษฐกิจ และตลาดต่างประเทศ และบ้านพี่เมืองน้องการผลักดัน การดำเนินโครงการเชียงใหม่ Local Food เชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดการพัฒนามาตรฐานและต่อยอดมูลค่าเพิ่มสินค้เกษตรในพื้นที่กับการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ผ่านสมาคมโรงแรม ภาคการศึกษา ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และช่องทางการจัดจำหน่าย, การส่งเสริมให้มีการดึงชาวต่างประเทศเข้ามาศึกษาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ภายใต้โครงการการเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางเมืองการศึกษานานาชาติครบวงจร รวมถึงการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจในจังหวัดและภาคเหนือ และ  การผลักดันให้เกิดโครงการเมืองการบินภาคเหนือ (Chiang Mai Aerotropolis) รับสนามบินแห่งใหม่ ที่จะทำให้เศรษฐกิจเชียงใหม่ขยยายตัว 3 แสนล้านบาทภายในปี 2565

นอกจากนั้นคือ การพัฒนาด้านโครงการงานแสดงสินค้า เช่น หอการค้าแฟร์ งานแสดง  เพื่อสร้างช่องทางการตลาด กระตุ้นกำลังซื้อในพื้นที่และภาคเหนือ ตลอดจนเป็นเวทีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด โครงการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว (Long Stay) ที่จะดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พำนักระยะยาวเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ โครงการส่งเสริมด้านการค้า การท่องเที่ยวกับบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดเชียงใหม่ และหอการค้าฯ  โครงการเชียงใหม่สู่ Smart City เป็นต้น นอกจากนั้นก็จะได้เร่งรัดโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเชียงใหม่ไม่ว่าด้านด้านสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ครบทุกเส้นทางภายในระยะเวลาอันใกล้ โครงการมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย เป็นต้น