กัมพูชาตรวจเข้มด่านพรมแดนสระแก้ว พร้อมเพิ่มช่องประทับตราลดปัญหาความล่าช้า

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสระแก้ว รายงานว่า ตามที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้เริ่มทำการตรวจประทับตราหนังสือเดินทางบุคคลสัญชาติไทยที่ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) และหนังสือผ่านแดน (Border Pass) ที่เดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักรอย่างเข้มงวด โดยจะต้องรอรับการตรวจประทับตราจากเจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปต ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 9 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อคนไทยที่ทำงานในบ่อนกาสิโนและนักท่องเที่ยวที่เข้าไปท่องเที่ยวในกรุงปอยเปตเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงสำหรับการประทับตราหนังสือเดินทาง เพราะมีช่องประทับตราฯเพียง 2 ช่อง ส่งผลให้เกิดกระแสการต่อว่าต่างๆ ในโซเชียลมีเดียมากมาย เนื่องจากที่ผ่านมากว่า 20 ปีพนักงานบ่อน หรือนักพนัน และนักท่องเที่ยวต่างๆที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ปอยเปต ในรัศมีห่างจากชายแดนประมาณ 800 เมตรไม่ต้องประทับตราหนังสือเดินเข้า-ออกประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด

ช่วงเช้าของวันนี้ (13 ส.ค.2562) ได้มีการประชุม 2 ฝ่าย (ไทย-กัมพูชา) เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชายแดนฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ,พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว,นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว, นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สระแก้ว เขต 3, พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.คลองลึก และ นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากร ฝ่ายไทย ส่วนฝ่ายกัมพูชาประกอบด้วย ผู้ว่ากรุงปอยเปต ,ผกก.ตม.ปอยเปต ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ของกัมพูชา

พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ผลการประชุมสรุปดังนี้ 1) กรมตำรวจกัมพูชาสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบหนังสือเดินทางของคนไทยอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีการตรวจพบคนไทยในพื้นที่ชั้นในไม่มีการประทับตราในบอร์เดอร์พาส 2) ได้เพิ่มช่องประทับตราหน้าด่านพรมแดน 4 ช่องและสามารถเข้าไปประทับตรงตรงวงเวียนอีกทางเป็นช่องบริการพิเศษอีก 5 ช่องบริการ 3) สำหรับพนักงานคาสิโนจะมีการเปิดช่องบริการโดยเฉพาะและสามารถเข้าไปทำงานก่อนแล้วกลับมาประทับตราได้และพนักงานบ่อนฯสามารถประทับตราหนังสือเดินทางประเภท บอเดอร์พลาส 1 ครั้ง มีอายุได้ 7 วัน และหนังสือเดินทางประเภทพาสปอร์ต 1 ครั้งอยู่ได้ 14 วัน 4) ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น หากพบมีการเรียกเก็บให้แจ้งเจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ทันที ทั้งนี้จะได้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางเพื่อให้ผู้ข้ามแดนได้เข้าใจเพื่อจะได้เดินทางได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมติในที่ประชุมในครั้งนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคาดว่าการแก้ปัญหาอย่างถาวรนั้นจะต้องใช้ระยะเวลานาน