เกษตรกรเมืองตรังต่อยอดรายได้ เลี้ยงผึ้งจิ๋วในสวนปาล์ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรตรังเลี้ยงชันโรงหรือผึ้งจิ๋วในสวนปาล์มน้ำมันสร้างรายได้และแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกร โดยชาวสวนปาล์มใช้พื้นที่ต่อยอดเลี้ยงชันโรงหรือผึ้งจิ๋วในสวนปาล์มน้ำมันสร้างรายได้และคาดหวังจะให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เกษตรกรที่สนใจเลี้ยงชันโรง ราคาน้ำผึ้งชันโรงจะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 1,500-2,000 บาท ซึ่งการผลิตนั้นยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จากแมลงน่ารำคาญจนมาสร้างรายได้

นายจิรวุฒิ วงศ์เทพวณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อก่อนที่บริเวณหมู่บ้านของตนจะมีชันโรงเยอะ แต่เป็นแมลงรำคาญใช้ยาฉีดฆ่าทิ้ง เพราะไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง จนมีผู้รู้ได้เข้ามาแนะนำทำให้ตนเองเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง และผู้แนะนำก็ได้ร่วมกันทำฟาร์มผึ้งชันโรง คาดไว้ว่าจะทำพื้นที่เลี้ยงชันโรงสัก 1,000 กล่อง ซึ่งในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 140 กล่อง และต้องการต่อยอดให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เกษตรกร ให้มาดูมาศึกษาเพื่อสร้างประโยชน์จากตรงนี้ได้ สำหรับผึ้งชันโรงเป็นแค่แมลงรำคาญไม่ได้มีอันตรายแถมยังมีคุณค่ามูลค่าให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงชันโรงอีกด้วย

ด้านนายนพเก้า ใจสมุทร ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงชันโรง กล่าวว่า ชันโรงคือผึ้งชนิดหนึ่งที่ไม่มีเหล็กในและไม่ต่อย และยังมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งชันโรงจะอยู่ตามโพรงไม้โพรงต้นไม้แต่เมื่อมีการตัดไม้ทำลายป่าเยอะชันโรงก็มาอาศัยตามบ้านเรือน ตามท่อแปบบ้างตามซอก หลืบ จนเราได้นำมาประยุกต์นำชันโรงมาเลี้ยงในกล่องในกระบอกไม้ไผ่เลี้ยงในกระถางดอกไม้ โดยการใช้ฟีโรโมนเพื่อดึงดูดให้ชันโรงเข้ามาอยู่ในที่ที่เราจัดไว้ เพื่อที่จะได้ประโยชน์จากตัวชันโรง เชื่อกันว่ามีสรรพคุณทางยามากกว่าน้ำผึ้งปกติถึง 30 เท่าและช่วยบำรุงพวกตับ ไต และยังมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง

นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาและสมารถแผล และมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์อยู่ในตัวน้ำผึ้ง รวมถึงน้ำผึ้งที่เป็นยาเพราะว่าเขาใช้ยางไม้มาหุ้มน้ำผึ้งไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำเป็นถ้วยและหมักบ่มให้น้ำผึ้งตัวนี้มีสรรพคุณทางยาสูง คือสามารถขายได้ทั้งกล่องและสายพันธุ์ชันโรง และน้ำหวานก็ขายได้ ในเรื่องวิธีการดูแลนั้นต้องกันแดดกันฝน มีบ้านให้ชันโรงด้วยการมีหลังคา กล่อง มีขาตั้งหรือกระบอกไม้ไผ่ เลี้ยงง่ายๆ ชาวบ้านก็เลี้ยงได้

“ส่วนในการเก็บน้ำหวานนั้นขึ้นอยู่กับแหล่งอาหารถ้าคุณมีแหล่งอาหารเยอะ บางครั้งเดือนเดียวก็เก็บผลผลิตได้แล้ว ถ้าให้ดีจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ส่วนในทางวิชาการจะเน้นเก็บเป็นปี แต่ควรที่จะเลี้ยงตัดเก็บน้ำหวานและปล่อยให้ชันโรงขยายรัง โดยชันโรงหรือผึ้งจิ๋ว จะไปเก็บเกสรดอกไม้และไปเก็บยางไม้เพื่อจะมาสร้างรังและเก็บน้ำหวานเพื่อมาเป็นพลังงาน เกสรจะเป็นโปรตีน น้ำหวานจะเป็นพลังงานให้เขา” นายนพเก้า กล่าว

ทั้งนี้ น้ำผึ้งที่ได้จากชันโรงในแต่ละครั้งเก็บได้ครั้งละถึง 2 กิโลกรัม ในส่วนของรสชาติจะมีเปรี้ยว หวาน ขม เค็ม ขึ้นอยู่ตามแต่ละสายพันธุ์ โดยของนายจิรวุฒจะเป็นชันโรงขนาดเล็กเขาเรียกชันโรงบ้านหรือชันโรงขุนเงินหลังลาย


“สำหรับในเรื่องการตลาดของน้ำผึ้งชันโรงนั้นจะอยู่ในตลาดออนไลน์ 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของเพจและการเปิดคอร์สอบรม หรือสามารถมาศึกษาที่แห่งนี้ได้เลยเพราะที่แห่งนี้มีประวัติบ้านหลุมถ่าน สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย ราคาน้ำผึ้งชันโรงจะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 1,500-2,000 บาท และตอนนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด”