กลุ่มจว.เหนือตอนบน 2 ชูผ้าทอล้านนาตะวันออก กระตุ้นท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น ตั้งเป้าดันรายได้ปี’60 โต 10%

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย จังหวัดแพร่ น่าน พะเยา และเชียงราย กำลังเดินหน้ากระตุ้นท่องเที่ยวผ่านโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย เป็นโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์การตลาดท่องเที่ยว และดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเที่ยวกลุ่มจังหวัดเหนือตอนบน 2 ช่วงกรีนซีซั่น รวมถึงเป็นการพัฒนาผู้ประกอบการผ้าพื้นเมืองให้พัฒนาตัวเองในด้านการออกแบบดีไซน์ให้ทันสมัยตรงกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น และกระตุ้นตลาดผ้าไหมพื้นเมืองให้คึกคักและเป็นที่รู้จักมากขึ้น

โดยที่ผ่านมาได้จัดงานซิ่นงามนามจกเมืองลอง และ Thailand Indigo Fashion Week ที่บริเวณตรงข้ามอนุสาวรีย์พระยาไชยบูรณ์ จ.แพร่ เพื่อยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มผ้าทอพื้นเมือง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งภายในงานมีการจัดประกวดออกแบบสินค้าท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกายจากผ้าทอพื้นเมือง ชิงรางวัลกว่า 8 แสนบาท พร้อมจำหน่ายผ้าทอและเครื่องประดับล้านนาคุณภาพ แฟชั่นโชว์ผ้าทอล้านนาตะวันออกสู่สากล นำโดยมารีญา พูนเลิศลาภ Miss Universe Thailand 2017 และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้ในแผนระยะยาวจะตระเวนจัดงานลักษณะนี้ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ให้ครบทุกจังหวัด

ทั้งนี้แผนการจัดงานดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้นักท่องเที่ยวให้เกิดการเดินทางมากขึ้น และยังเป็นการพัฒนาคุณภาพผู้ประกอบการผ้าไหมท้องถิ่น เพิ่มช่องทางการขาย ดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวให้มีการจับจ่ายสูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าว่าในปี 2560 ตลาดในประเทศ ปรับแผนตลาดกระตุ้นคนไทยให้เดินทางมากยิ่งขึ้น สร้างรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ส่วนตลาดต่างประเทศ เน้นการเพิ่มการใช้จ่ายต่อการเดินทางแต่ละครั้ง มุ่งสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ซึ่งตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10

“กลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออกมีผ้าไหมที่สวยงาม เพื่อเป็นการขยายตลาด จึงนำเอาผ้าทอพื้นเมืองภูมิปัญญาของชาวล้านนาตะวันออก มายกระดับสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งในด้านการเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกาย ตลอดจนส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว หรือกรีนซีซั่น (Green Season) เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนแพร่ น่าน พะเยา เชียงรายเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน” นายวัฒนากล่าว