สภาอุตฯจังหวัดชงจัด”ตรังมาราธอน”กระตุ้นศก.ทุกปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาอุตสาหกรรมตรัง สรุปการจัดการแข่งขันตรังมาราธร 2019 สร้างรายได้เกือบ 6 ล้านบาท พร้อมบริจาคให้โรงพยาบาลของรัฐ 10 แห่ง ชงทุกวันที่ 12 กค.เป็นวันจัดการแข่งขันตรังมาราธรทุกปี มั่นใจจะกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้จังหวัดได้เป็นอย่างดี

นายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ในฐานะประธานการจัดการแข่งขันตรังมาราธอน 2019 เปิดเผยว่า ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการสำหรับงานตรังมาราธอน 2019 ซึ่งสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง และ จังหวัดตรังจัดขึ้น เมื่อเร็วๆนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมอประมาณ 6,000 คน ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน และมอบเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลของรัฐ จำนวน 10 แห่งในจังหวัดตรัง

นายประชา เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อเร็วๆนี้ ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันตรังมาราธอน 2019 พร้อมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้ร่วมจัดการประชุมชี้แจงสรุปผลการดำเนินงานของตรังมาราธอน 2019 ขึ้น ณ ห้องประชุมพระยารัษฎา ศาลากลางจังหวัดตรัง พร้อมมอบเงินรายได้ให้กับ 10 โรงพยาบาลของรัฐ และ มอบเกียรติบัตรให้กับผู้สนับสนุน ทั้งภาครัฐ และ เอกชน โดยมีนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธาน สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้มีรายได้ทั้งหมดประมาณ 6 ล้านบาท โดยมีรายรับสูงกว่ารายจ่ายประมาณ 7.5 แสนบาท

“ทั้งนี้ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ได้กำหนดให้วันที่ 12 กรกฎาคม 2563 เป็นวันแข่งขัน “ตรังมาราธอน 2020” และจะมีการจัดเป็นประจำทุกปัเพื่อให้เป็นอีกกิจกรรมหลักของจังหวัดตรัง เนื่องจากผมมองว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดตรังได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคาดว่าในแต่ละปีจะมีนักกีฬา ตลอดจนผู้ติดตามเข้าร่วมการแข่งขันไม่น้อยกว่า 20,000 คน และคาดว่าจะทำเงินสะพัดในจังหวัดช่วงการจัดกิจกรรมทั้งระบบไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท”

นายประชา กล่าวต่อไปว่า รายได้ที่จะเข้าจังหวัดตรังผ่านทางการจัดงานในครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจหลายด้านมีการขยายตัว ทั้งที่พักต่างๆกว่า 4,000 ห้องจะเต็มหมดทั้งจังหวัด และอาจจะขยายออกไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย ธุรกิจของฝาก ของที่ระลึก ธุรกิจร้านอาหาร การท่องเที่ยว และอื่นๆเป็นต้น ดังนั้นเมื่อมีการจัดงานเป็นประจำทุกปีที่จัดมาตรฐานระดับสากล ตนเชื่อว่าจะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันเพิ่มมากขึ้นทุกปี ไม่เฉพาะชาวไทยแต่รวมถึงชาวต่างประเทศด้วยซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์การแข่งขันอย่างต่อเนื่อง และตนเชื่อมั่นว่ากิจกรรมดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดตรัง ให้มีการขยายตัวขึ้นได้ในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน