“หนองคาย” เลี้ยงปลากดเหลือง สร้างอาชีพ-รายได้ดี

นายสาธิต คำกองแก้ว ข้าราชการบำนาญ กรมประมง/เกษตรกรเลี้ยงปลากดเหลืองใหญ่แม่น้ำโขง เจ้าของฟาร์มปลาวิภาวรรณฟาร์ม ที่บ้านหนองยางคำ ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การเลี้ยงปลากดเหลืองใหญ่แม่น้ำโขง ปัจจุบันนี้ปลาในแม่น้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเหตุผลหลายๆอย่าง ทั้งการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง อีกทั้งปลากดเหลืองแม่น้ำโขงถือเป็นปลาเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีรสชาติดี ปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด ตนจึงได้ไปรับซื้อปลากดเหลืองที่จะนำมาทำเป็นปลาพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์จากชาวบ้านที่ประกอบอาชีพหาปลาในแม่น้ำโขง โดยได้เลี้ยงปลาที่ได้มาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีจนมีความสมบูรณ์ และได้ทำการเพาะพันธุ์ซึ่งตอนแรกได้ผลในระดับหนึ่ง จากนั้นก็การเพาะพันธุ์ก็ได้ผลดีมากขึ้น จนถึงขณะนี้ก็ได้เพาะพันธุ์และเลี้ยงต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว

เกษตรกรหรือชาวบ้านที่มาซื้อลูกปลาที่ตนเพาะพันธุ์ไปเลี้ยงต่อก็ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงเป็นอย่างดี เนื่องจากปลากดเหลืองเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย สามารถปรับให้กินเป็นอาหารเม็ดก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วปลากดเหลืองเป็นปลาที่ชอบกินอาหารตามธรรมชาติมากกว่าการกินอาหารเม็ด ซึ่งเกษตรกรที่มีความสนใจจะเลี้ยง ตนแนะนำให้เลี้ยงในบ่อขนาดเนื้อที่ 1 งาน สามารถเลี้ยงปลากดเหลืองได้ 2 – 3 พันตัว โดยในระยะแรกก็ให้อาหารปลาดุกที่มีโปรตีนประมาณร้อยละ 30 หากเป็นไปได้ ให้เลี้ยงด้วยไส้เดือนตามขอบบ่อที่เลี้ยงได้ยิ่งดี ซึ่งจะใช้ไส้เดือนประมาณ 4 กิโลกรัม/วัน หรืออาหารสดอื่น ๆ เช่นโครงไก่ เป็นต้น เนื่องจากปลากดเหลือง เป็นปลาที่ชอบอยู่ในบริเวณที่น้ำไหลเหมือนในแม่น้ำโขง

นายสาธิต กล่าวต่อว่า ปลากดที่ตนเพาะเลี้ยงอยู่ในฟาร์มนี้ เป็นปลากดพันธุ์เหลืองใหญ่ แม่น้ำโขง ซึ่งปลากดจะมีหลายชนิด เช่นปลากดขี้ลิง ปลากดหม้อ และปลากดคัง เป็นต้น ปัจจุบันนี้ปลากดเหลืองใหญ่เริ่มจะหาในธรรมชาติได้ยากขึ้น ตนทำมา 10 กว่าปีมีพ่อ-แม่พันธุ์ และเพาะพันธุ์ลูกปลามาเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งปลากดเหลืองใหญ่นี้มีจุดเด่นที่แตกต่างจากปลากดชนิดอื่น ๆ คือมีสีเหลืองทองสวย ครีบหางมีลักษณะเด่น และเป็นปลาที่แปลกคือปลาเพศผู้จะมีขนาดตัวโตกว่าปลาเพศเมียและจะมีติ่งให้เป็นที่สังเกตเมื่อมีอายุพร้อมที่จะผสมพันธุ์ ปกติจะเป็นปลาที่เลี้ยงตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไป ถ้าเป็นปลาที่อายุน้อยกว่านี้ การผสมพันธุ์การเพาะพันธุ์ก็จะไม่ได้ผลดีและลูกปลาจะไม่แข็งแรง

 สำหรับการเพาะพันธุ์ลูกปลากดตั้งแต่เริ่มต้นจากการเพาะพันธุ์ในบ่อคอนกรีตที่เป็นบ่ออนุบาลก่อน โดยเลี้ยงได้ไรแดงเป็นเวลาประมาณ 10 – 15 วัน จากนั้นก็นำลงบ่อดินก็จะฝึกให้กินอาหารกบหรืออาหารลูกอ๊อดที่มีการบดแล้วปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ วางในตามบ่อ หลังนำลูกปลาลงบ่อแล้วก็จะให้อาหารกบที่บดปั้นเป็นก้อนวันละ 2 ครั้ง เลี้ยงอนุบาลในบ่อดินประมาณ 15 วันก็จะได้ลูกปลากดขนาด 1 นิ้วที่สามารถขายได้ ซึ่งที่ฟาร์มของตนจะขายถูกกว่าที่อื่น เนื่องจากเพาะพันธุ์เอง คือจะคิดขนาดลูกปลา 1 นิ้ว/ 1 บาท ผู้ที่จะคิดจะเพาะพันธุ์ลูกปลากดเหลืองขาย ต้องมีความพร้อม เริ่มตั้งแต่บ่อเพาะ อาหารลูกปลาแรกเกิดโดยเฉพาะไรแดงที่เป็นอาหารหลักและทำให้การเพาะพันธุ์ลูกปลาได้ผลดีก็ต้องพร้อมเช่นกัน


ในส่วนของลูกค้าที่มีซื้อลูกปลากดเหลืองนั้น จะมาซื้อที่ฟาร์ม มีทั้งซื้อไปเลี้ยงและซื้อไปขายต่อ มาจากหลายจังหวัดไม่เฉพาะที่จังหวัดหนองคาย เช่นจังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย และจังหวัดบึงกาฬ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีลูกค้าจาก สปป.ลาว เป็นจำนวนมากอีกด้วย เฉพาะปีนี้ที่มีปัญหาเรื่องสภาพอากาศ และการขาดแคลนน้ำ ทำให้ตนเพาะลูกปลาได้เพียง 4 ชุด ๆ ละ 6 – 7 หมื่นตัว รวมแล้วประมาณ 2 – 3 แสนตัว ซึ่งปกติปลาพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ หากเลี้ยงได้สมบูรณ์แล้ว จะสามารถเพาะพันธุ์ได้เดือนละ 1 ครั้ง

ทั้งนี้ตน จะมีการเลี้ยงเป็นปลาใหญ่ขาย  คือในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน เพื่อเป็นรายได้เสริม ซึ่งฟาร์มของตนจะไม่ขายพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ แต่ปกติที่มีการซื้อขายพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์กันจะซื้ออยู่ที่ 250 – 300 บาท/กิโลกรัม ส่วนปลากดเหลืองที่ขายแบบปลาเนื้อทั่วไปนำไปปรุงอาหาร ที่ปากบ่อจะอยู่ที่ 110 – 120 บาท/กิโลกรัม นอกจากการเลี้ยงปลากดเหลืองใหญ่แล้ว ยังสามารถเลี้ยงปลาน้ำโขงชนิดอื่น ๆ ด้วยกันได้ แต่ต้องคัดปลาที่เลี้ยงให้มีขนาดใกล้เคียงกัน เช่นนำปลาคังมาเลี้ยงกับปลากดได้

ในส่วนของโรคนั้น จากการเลี้ยงมาในฟาร์มของตนยังไม่เคยเจอ แต่มีเกษตรกรบางรายทั้งในไทยและใน สปป.ลาว ที่มีการใช้ในจากฝายหรือหนองน้ำที่น้ำมีการหมักหมมของเห็บและหนองสมอ เข้ามาในบ่อเลี้ยงโดยไม่มีการกรองหรือการฆ่าเชื้อก่อนนำลูกปลาลงเลี้ยง ก็จะทำให้ปลาป่วยเป็นตาบวม และเหงือกแดง ซึ่งตนแนะนำให้ใช้เกลือและยาฆ่าเชื้อหว่านลงในบ่อแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง



สำหรับปลากดเหลือง สามารถปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด เช่นต้มยำ ห่อหมก แกงส้ม นึ่งบ้วย และปลาลวก เป็นต้น ซึ่งปลากดเหลืองเนื้อจะแน่นและรสชาติดี ผู้ที่สนใจหรือมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ฟาร์มโดยตรง หรือสอบถามทางหมายเลขโทรศัพท์ ได้ที่หมายเลข 081-9654756.