เกษตรทางเลือกเชียงใหม่ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ หนุนแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า วันนี้ (21 ตุลาคม 2562) เครือข่ายเกษตรทางเลือกจังหวัดเชียงใหม่ ได้รวมตัวกันบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งจะประชุมในวันอังคารที่ 22 ตุลาคมนี้ ได้ตระหนักและมีมติห้ามใช้ ห้ามขายสารเคมี 3 ชนิด (พาราควอต ไกลโฟเสต คลอร์ไพริฟอส) รวมทั้งขอให้มีการลงมติโดยเปิดเผย โดยมีนางสาวรตนพร กิติกาศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในการรับมอบหนังสือดังกล่าว

ดร.ชมชวน บุญระหงษ์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า เครือข่ายเกษตรทางเลือกจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนการแบนสารเคมีอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิด และเรียกร้องให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายลงมติโดยเปิดเผย

สำหรับเครือข่ายเกษตรทางเลือกที่มาร่วมยื่นหนังสือในวันนี้ เป็นกลุ่มเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ในหลายอำเภอ ได้แก่ อำเภอสารภี สันป่าตอง ดอยสะเก็ด แม่ริม สะเมิง และแม่อาย เป็นต้น โดยสาระสำคัญของหนังสือฉบับนี้มีข้อเสนอ 4 ประการคือ 1.ยกเลิกการใช้และการจำหน่ายสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ภายในเดือนธันวาคม 2562

2.ให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย ลงมติโดยเปิดเผย 3.ให้มีมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ลงทะเบียนต้องการใช้สารเคมี 3 ชนิดนี้ต่อเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกร 4.ในระยะยาวให้มีการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของการที่จะมีอาหารปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกร

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเกษตรกร โดยเครือข่ายเกษตรทางเลือกจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินงานส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ทำการเกษตรวิถีธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมีในการผลิต รวมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรจากเคมีเป็นอินทรีย์ได้ หากมีความรู้เรื่องการกำจัดศัตรูพืช และการเพิ่มผลผลิตโดยวิธีธรรมชาติ และมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตอย่างต่อเนื่อง

ดร.ชมชวน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์จำนวน 5,000 ครอบครัว หรือราว 140,000 ราย คิดเป็น 5-6% เท่านั้นของการเกษตรทั้งระบบของจังหวัดเชียงใหม่ โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ทำเกษตรอินทรีย์เต็มตัวจำนวน 2,000 ครอบครัว และอีก 3,000 ครอบครัวกำลังเริ่มปรับเปลี่ยนการผลิตเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยในปี 2563 เครือข่ายฯ จะเดินหน้าโครงการเกษตรอินทรีย์ทุกอำเภอ เพื่อผลักดันให้เชียงใหม่สู่วิถีอินทรีย์

นางสาวรตนพร กิติกาศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากได้รับมอบหนังสือจากเครือข่ายเกษตรทางเลือกจังหวัดเชียงใหม่แล้ว จะนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ภายในวันนี้ เพื่อลงนามหนังสือและส่งเรื่องไปยังปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อรายงานนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้องทราบภายในวันนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมที่จะเร่งขับเคลื่อนเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ให้มีความยั่งยืน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่