ททท.ภาคใต้ชี้ทิศทางปี’63 “ชุมพร” เมืองรองดาวรุ่งมาแรง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้ ร่วมกับ ททท.สำนักงานชุมพรจัดประชุมทิศทางการตลาดท่องเที่ยวให้ผู้ประกอบการและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องรับทราบแนวทางการดำเนินงานปีงบประมาณ 2563

นายนิธี ศรีแพร ผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคใต้ เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวในภาคใต้ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2562 ว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในภาคใต้ร้อยละ 72.33 หรือ 39,562,530 คน/ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.28 มีรายได้เข้าสู่ภาคใต้ 639,339.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.63 มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 16,160.24 บาท/คน/ทริป เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.50 ซึ่ง ททท.ภูมิภาคภาคใต้ มีเป้าหมายรายได้ช่วงเดือนมกราคม-ธันวาคม 2562 คือ 896,057.41 ล้านบาท มีรายได้จริงคือ 639,339.85 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวคือ 53,886,891 คน/ครั้ง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจริง 39,562,530 คน/ครั้ง จังหวัดที่นักท่องเที่ยวเข้าไปมากที่สุดคือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สงขลา และสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นเมืองหลักที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 80% ของภาคใต้ ที่เหลืออีก 20% เป็นเมืองรองอย่าง นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง ซึ่งชุมพรเป็นเมืองรองดาวรุ่งที่มีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวดีพอสมควร

“ทิศทางดำเนินงานปี 2563 ททท.จะเน้น 3 เรื่องใหญ่ ๆ คือ 1.การกระจายการเดินทางของนักท่องเที่ยวสู่จังหวัดเมืองรอง 2.เพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้วยสินค้ามูลค่าสูงหรือประสบการณ์ท่องเที่ยว 3.เพิ่มความเชื่อมั่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองชายแดนใต้ ภายใต้แนวคิด “ชีพจรลง South Wow ทุกสไตล์” แบ่งเป็น “จากภูผาสู่มหานที ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ฯ”, “เท่งชวนเที่ยว คอน ลุง ตรัง (นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง)”, “กินหลากหลายสไตล์หลายวัฒนธรรม สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส”, “Rhythm Run & Roi ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย” และยังมีโครงการ Andaman Go Green เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการอนุรักษ์ ภายใต้แนวคิด ชีพจรลง South เรารักษ์เล”

ด้าน นางสาวญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานชุมพร เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2562 มีคนเข้ามาท่องเที่ยวในชุมพร 1,202,301 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 0.36 และชุมพรอยู่ในลำดับที่ 45 เหมือนปี 2561 ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวช่วงเดียวกันคือ 5,877.29 ล้านบาท อยู่ในลำดับที่ 25 เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่อยู่ในลำดับที่ 26 สำหรับปัจจัยส่งเสริมการท่องเที่ยวจะเชื่อมโยงโครงการ Thailand Riviera ตามแผนแม่บท พ.ศ. 2560-2564 คือ 1.ส่งเสริมให้ชุมพรเป็นศูนย์การคมนาคมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและการให้บริการประชาชน 2.เพิ่มขีดความสามารถการขนส่งทางอากาศ 3.ส่งเสริมให้เกิดธุรกิจและบริการการดำน้ำครบวงจร 4.ส่งเสริมให้เกิดงานมหกรรมและกิจกรรมด้านกีฬาที่สร้างชื่อเสียงสอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เพื่อให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพด้านกีฬาและผู้ติดตามให้มากขึ้น และ 5.พัฒนาพื้นที่จัดกิจกรรมเชิงสาธารณะของเมืองและจังหวัด เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว

“แผนดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวปี 2563 ของ ททท.ชุมพร จะดำเนินตามโครงการ “ชุมพร…แน่นอนเรื่องทะเล” โดยเฉพาะช่วง low season เดือนตุลาคม-ธันวาคม ที่ชุมพรยังถูกมองว่าเป็นเพียงเมืองผ่านไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว จำเป็นต้องนำเสนอจุดเด่นคือ ความสวยงามใต้ทะเลชุมพรมากขึ้น โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่ม Gen Y (วัยทำงานตอนต้น) ให้มาสัมผัสอาหารทะเล ฉลามวาฬ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และวิถีชีวิตชาวประมง ผ่านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ จัด Media/ Agent Fam Tip และร่วมกับพันธมิตรจัดเทศกาลกาแฟ Robusta@Chumphon”

ด้านกิจกรรมส่งเสริมการขาย จะร่วมกับพันธมิตรจัดแพ็กเกจเสนอขายในงาน Consumer Fair ต่าง ๆ และร่วมกับพันธมิตรจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน เช่น ชิมอาหารทะเล สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมง เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีโครงการสนับสนุนงานประเพณีในพื้นที่คือ งานแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง ลุ่มน้ำหลังสวน งานเทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ งานโลกทะเลชุมพร และงานวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ โดยให้คำแนะนำปรึกษาเพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านตลาดการท่องเที่ยวแก่พันธมิตร และจัดทำคู่มือ แผนที่ท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวในพื้นที่ทิศทางการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวในภาคใต้ปี 2563 ของ ททท.ภูมิภาคภาคใต้ครั้งนี้ เชื่อแน่ว่าคงมีส่วนผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรที่เคยถูกมองว่าเป็นแค่ทางผ่านลงไปจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ ให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา