Class Café หนีดิสรับชั่น พลิกโฉมแพลตฟอร์มกาแฟ

นายมารุต ชุ่มขุนทด CEO ร้านกาแฟ Class Cafe กล่าวในงานสัมมนาประชาชาติธุรกิจ “เชียงใหม่ 2020 เปลี่ยน ก่อนถูกเปลี่ยน” ในหัวข้อ“Beyond Business แตกต่างเพื่อเติบโต” ว่า การนำเอาความรู้ที่ได้ไปทำร้านกาแฟเกิดขึ้นหลังจากเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาที่เห็นเทรนกาแฟเติบโต จึงได้ไอเดียไปริเริ่มเปิดตลาดโคราช เพราะภาคอีสานมีจำนวนประชากรเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มทำกาแฟเองจากประสบการณ์ เป็นแพลตฟอร์มกาแฟร้านแรก เมื่อขายไปสักพักก็มีคนสนใจค่อนข้างเยอะ

ขณะที่ภาพธุรกิจในปัจจุบันกำลังพบกับการเปลี่ยนแปลง คลื่นธุรกิจกำลังเปลี่ยนเพราะคนซื้อของออนไลน์มากขึ้น เป็นคนกลุ่มใหม่ที่สามารถที่ตัดสินใจซื้อของง่าย เช่น โค้ก สไปร์ เบียร์ จะเห็นว่าธุรกิจมีการแข่งขันหรือการดีสรับชั่นมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจร้านอาหารและร้านกาแฟอย่างต่อเนื่อง เช่น โปรโมชั่นออนไลน์ 1 แถม 1 จนเกิดปัญหาโครงสร้างราคา ขาดทุน จากเดิมเปิดร้านต้องมีการลงทุนให้มีความสนใจมากที่สุด แต่ปัจจุบัน คือร้านที่มีแกร็บ จอดอยู่หน้าร้านก็ซื้อ

ปัจจุบัน Class Cafe มี 30 สาขา หากทั้ง 30 สาขาปรับเปลี่ยนให้เป็นไปในแพลตฟอร์มเดียวกัน จะเป็นดังนี้ 1.ต้องจำบุคคลได้ 2. ดึงข้อมูลทั้งหมด 3. เริ่มใช้ Machine Learning

“การมีสาขาเยอะไม่ใช่หัวใจสำคัญในการขยายตัวของธุรกิจ แต่สาขาที่มีอยู่จะต้องทำกำไร และตอบโจทย์ลูกค้า อย่างเดลิเวอร์รี่ต้องมีโปรโมชั่น พัฒนาเพื่อไม่ใช้ถูกดิสรับชั่น ในปี 2563 ยุทธศาสตร์การขยายสาขาให้มากแต่ต้องทำให้เกิดกำไรให้มากที่สุด เพราะเปิดมากก็มีภาระต้นทุนมาก โดยใช้ยุทธศาสตร์ด้านดาต้าหรือข้อมูลของลูกค้า เข้าสู่แพลตฟอร์มของร้านเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น บาริต้าต้องรู้ใจลูกค้าและเข้าถึงลูกค้ามากที่สุด ซึ่งเป็นวิธีคิดของธุรกิจยุคใหม่”