แลนด์ลอร์ดอยุธยาเร่งเครื่องลงทุนเพิ่ม ลุยเมืองใหม่ “นราวดีซิตี้พาร์ค” 4.5พันล้าน 5โครงการ

นราวดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลอปเปอร์รายใหญ่เมืองอยุธยา เดินหน้าสร้างเมืองใหม่ “นราวดี ซิตี้พาร์ค” ชูจุดขายมาที่เดียวได้ครบทุกอย่าง เน้นคุณภาพ-ทำเล-การคมนาคม-บริการหลังขาย ตรึงใจลูกค้า ทุ่มงบฯ 4,500 ล้าน ลงทุนเพิ่มอีก 5 โครงการ กว่า 1,500 ยูนิต ตั้งเป้าปี”61 เตรียมพัฒนาตลาด สวนสาธารณะ ร้านสะดวกซื้อ ก้าวสู่ความเป็นเมือง เผยไม่หวั่นคู่แข่ง เหตุได้เปรียบมีแลนด์แบงก์กว่า 1,000 ไร่ ลั่นพร้อมรุกปักหมุดปทุมธานี

ลุยสร้างเมืองในเมือง

นางสาวสุวิมล พันธ์เจริญวรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นราวดี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นราวดีฯได้ดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 2535 ลงทุนทั้งใน จ.พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพฯ ปัจจุบันได้เข้ามาลงทุนในอยุธยา อย่างจริงจังมากขึ้น เป็นระยะเวลากว่า 6 ปี โดยมีรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ครบทุกประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ รวมถึงธุรกิจให้เช่า เช่น อพาร์ตเมนต์ ซึ่งลูกค้ามาที่เดียวจะได้ครบทุกอย่าง

ปัจจุบันนราวดีฯมีแลนด์แบงก์ประมาณ 1,000 กว่าไร่ ขณะนี้พัฒนาพื้นที่ไปเพียง 25-30% โดยดำเนินโครงการที่พักอาศัยในอยุธยา และโครงการนราวดี ซิตี้พาร์ค ซึ่งเป็นการสร้างเมืองใหม่ในเมืองพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้จะเน้นการพัฒนาอสังหาฯแนวราบเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มลูกค้า ได้แก่ พนักงานที่ทำงานในอยุธยา นักธุรกิจรายใหญ่เอสเอ็มอี และข้าราชการ

ขณะที่ในปี 2561 เตรียมลงทุนเซเว่นอีเลฟเว่นขนาดใหญ่ ตลาด และการพัฒนาทะเลสาบให้เป็นสวนสาธารณะ รวมถึงมีมาสเตอร์แพลนในการพัฒนาถนนในนราวดี ซิตี้พาร์ค ให้ครบทุกสาย ในอนาคตพร้อมที่จะดำเนินการแนวสูง เช่น โรงแรม รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติ ขณะเดียวกันยังมีแลนด์แบงก์ใน จ.ปทุมธานี ที่เตรียมลงทุนต่อไป

ลงทุนเพิ่ม 5 โครงการ

นางสาวสุวิมลกล่าวต่อว่า ปี 2560 มีโครงการที่กำลังปิดการขาย 4 โครงการ 803 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.ดีพลัส บริเวณถนนโรจนะ ต.คานหาม อ.อุทัย ตรงข้ามวัดคานหาม เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 2.นราวดี อิลิแกนซ์ อยู่ในโครงการนราวดี ซิตี้พาร์ค ถนนโรจนะ-อยุธยา เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว และอาคารพาณิชย์ 3.ซิตี้โฮม ตั้งอยู่ในโครงการนราวดี ซิตี้พาร์ค เป็นอาคารพาณิชย์ และ 4.นราวัลย์วังน้อย ตั้งอยู่ ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว และ 2 ชั้น อาคารพาณิชย์

นอกจากนั้นในปีนี้ยังอยู่ระหว่างลงทุนเพิ่มอีก 5 โครงการ 1,517 ยูนิต มูลค่า 4,500 ล้านบาท คือ 1.นราเฮ้าส์-พหลโยธิน ตั้งอยู่ ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย ตรงข้ามตลาดวังน้อย เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว บ้านแฝดชั้นเดียว และทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว รวม 150 ยูนิต 2.นราเลค & พาร์ค ตั้งอยู่ในโครงการนราวดี ซิตี้พาร์ค เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว บ้านแฝดชั้นเดียว ทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว และอาคารพาณิชย์ รวม 298 ยูนิต 3.นราไพรเวท อยู่ในโครงการนราวดี ซิตี้พาร์ค เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บ้านแฝด 2 ชั้น ทาวน์โฮม 2 ชั้นครึ่ง และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง รวม 129 ยูนิต 4.นราแกรนด์ อยุธยา-โรจนะ ตรงข้ามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาควังน้อย เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บ้านแฝด 2 ชั้น และทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น รวม 482 ยูนิต และ 5.นราเฮ้าส์ โซนถนนสายเอเชีย เป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว และทาวน์เฮาส์2 ชั้น รวม 458 ยูนิต

ชูคุณภาพครองใจลูกค้า

นางสาวสุวิมลกล่าวอีกว่า จุดเด่นของนราวดีฯคือ เรื่องของคุณภาพ โดยรูปแบบการก่อสร้างจะยังคงเป็นระบบก่ออิฐฉาบปูน (RC) ซึ่งเป็นที่นิยมมากของลูกค้าใน จ.พระนครศรีอยุธยา และการบริการหลังการขาย ขณะที่ราคาของนราวดีฯกับบิ๊กแบรนด์ที่เข้ามาลงทุนไม่แตกต่างกันมาก แต่ด้วยชื่อเสียงด้านคุณภาพที่มีมานาน ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น

นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ศูนย์กลางของแหล่งแรงงาน และการคมนาคมสะดวกสบาย โดยมีการตัดถนนกว้าง 20 เมตร จากถนนโรจนะ ใกล้สวนอุตสาหกรรมโรจนะ สามารถเชื่อมต่อไปยัง จ.สระบุรี และทะลุไปถนนสายเอเชีย ซึ่งใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อีกทั้งนราวดี ซิตี้พาร์ค ตั้งอยู่นอกเมือง จึงทำให้สามารถสร้างอาคารสูงได้

อยุธยาเนื้อหอม

นางสาวสุวิมลกล่าวต่อว่า ปัจจุบัน จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากมีนักลงทุนในพื้นที่แล้ว ยังมีบิ๊กแบรนด์เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พฤกษา และแสนสิริ เนื่องจากทำเลที่ตั้งใกล้กรุงเทพฯ การคมนาคมสะดวก จึงทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น โดยที่ดินที่อยู่ห่างจากตัวเมือง รัศมีเกิน 30 กิโลเมตร (กม.) ราคาที่ดินเริ่มขยับขึ้นประมาณ 30% ถ้าอยู่ในรัศมี 30 กม. ราคาที่ดินปรับตัวขึ้นกว่าเท่าตัว


ขณะที่ภายในรัศมี 7 กม. พุ่งสูงมาก แต่ไม่ได้สูงจนไม่สามารถลงทุนได้ “มองว่าตอนนี้ตลาดอสังหาฯอยุธยามาแรงมาก เป็นช่วงของขาขึ้น กำลังซื้ออยุธยายังมีอีกมหาศาล ขณะที่การแข่งขันก็ถือว่าสูงมาก แต่ไม่ได้มองเป็นคู่แข่ง เรามองเป็นพันธมิตร” นางสาวสุวิมลกล่าว