พิษPM2.5 “เชียงราย” พุ่งผู้ป่วยถุงลมโป่งพองทะลุ 2 แสนคน รพ.เร่งเปิดคลีนิกรองรับ

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดคลีนิกมลพิษประจำโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยคลีนิกดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรองรับกรณีพื้นที่ภาคเหนือเริ่มได้ผลกระทบจากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 ที่มักจะเกิดขึ้นมากในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.ของทุกปีด้วย

นายทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในปัจจุบันค่าPM 2.5 ในอากาศยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่สูงโดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยเป็นผลทำให้เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพที่กำหนดเอาไว้ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรติดต่อกันมา ดังนั้นทางเครือข่ายของสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย จึงได้เร่งออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ระมัดระวังป้องกัน เช่น อย่าเผา อย่าอยู่ในที่โล่ง ฯลฯ รวมทั้งมีการแจกหน้ากากอนามัยแก่กลุ่มเสี่ยงจำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี สตรีมีครรถ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว  และผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองที่มีอยู่รวมกันกว่า 200,000 คน

ส่วนการเปิดคลีนิคมลพิษแห่งนี้ขึ้นนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของมาตรการรองรับปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำ รักษาผู้ป่วยและจัดบริการพื้นที่สะอาดหรือเซฟตี้โซนซึ่งปัจจุบันได้กำหนดให้ทุกโรงพยาบาลชุมชนทั่วจังหวัดประมาณ 200 แห่ง เพื่อให้สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 20,000 คน

นายแพทย์ทศเทพ กล่าวต่อว่า อนาคตก็ยังมีแผนจะขยายเซฟรี้โซนให้ครอบคลุมไปถึงศูนย์เด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โรงเรียน สถานที่ราชการต่าง หรือภายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อส.ทุกคนจำนวน 24,000 คน ไปประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และร่วมกันเฝ้าระวัง รวมทั้งได้ออกประกาศเขตควบคุมเหตุรำคาญจากการเผาตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข (ฉบบที่ 3) ปี 2560 เต็มพื้นที่ จ.เชียงราย ทำให้ผู้ที่ฝ่าฝืนเผาในที่โล่งทุกชนิดมีโทษปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับด้วยต่อไป

ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือPM 2.5 จ.ชียงราย เปิดเผยว่า หลังจาก จ.เชียงราย ได้ออกประกาศขอความร่วมมืองดเผาในที่โล่งแจ้งทุกชนิด แต่ยังพบว่ามีค่าPM 2.5 ยังเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย และ อ.แม่สาย ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการจึงมีมติกำหนดห้วงระยะเวลา “60 วันปลอดการเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาด” ในพื้นที่ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.ไปจนถึงวันที่ 21 เม.ย.นี้

โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 กรณีพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย มาตรา 21,22 และ 29 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปี 2550 กรณีพบเห็นการเผาจะถูกจับกุมดำเนินคดีและปรับทันที และต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 1- 30 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-3,000,000 บาท นอกจากนี้ จ.เชียงราย ยังได้จัดทำสถานที่ปลอดภัยหรือเซฟตี้โซนดังกล่าว และตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันและฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ปี 2562-2563 ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 เชียงราย จัดชุดปฏิบัติการ ลาดตระเวน ประชาสัมพันธ์ ป้องปราม ปฏิบัติการดับไฟป่า อย่างเต็มรูปแบบแล้ว