ลุ้นเปิด “ด่านพุน้ำร้อน” กาญจนบุรี เชื่อมอันดามัน เมียนมาบูมท่องเที่ยว

นับถอยหลังอีกไม่กี่เดือน”ด่านพุน้ำร้อน” อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จะเปิดดำเนินการพิธีศุลกากรได้เต็มระบบ หลังจากชาวเมืองกาญจน์รอคอยกันมาเนิ่นนานหลายปี ผู้ประกอบการธุรกิจในพื้นที่ และนายทุนจากส่วนกลางหลายคนคาดหวังถึงความคึกคักของเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นบริเวณพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งนี้ จะกลายเป็นจุดผ่านแดนสำคัญของภาคตะวันตก เพราะถือเป็นหน้าด่านของการขนส่งสินค้าเข้า-ออกจากทวาย เมืองท่าปากแม่น้ำที่อยู่ไม่ห่างจากทะเลอันดามันของเมียนมา และเป็นอานิสงส์ให้เศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีมีทิศทางเติบโตขึ้นในอนาคต

อนาคตฮับโลจิสติกส์

“นายพิพัฒน์ สรพรม” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีเอ็มเค กาญจนบุรี เทรดดิ้ง จำกัด หรือ TMK Supermarket เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ด่านพุน้ำร้อนจะเป็นชายแดนที่เปิดเสรีในอนาคต เป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งสินค้าจากแหลมฉบังมายังกาญจนบุรี โลจิสติกส์จะรวดเร็วมากขึ้น เป็นโอกาสของพื้นที่และนักลงทุน ซึ่งจะเติบโตได้อีกมากในอนาคต

เมื่อโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. กรมทางหลวงคาดว่าจะเปิดให้บริการตลอดสายภายในปี 2566 จะส่งผลให้เขตการค้าชายแดนเปิดบริการได้เต็มรูปแบบ 100% การขนส่งวัตถุดิบจากทวายมาได้สะดวกขึ้น

ขณะเดียวกัน นักลงทุนกำลังสร้างร้านค้า โรงแรม ศูนย์กระจายสินค้าติดชายแดน พร้อมกับการติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับแผนพัฒนาการลงทุนในเมียนมา

“ตอนนี้ที่ดินที่อยู่ติดเขตชายแดนมีมูลค่าสูงมาก แต่นักลงทุนดูอยู่ว่าเมียนมาจะพัฒนาพื้นที่ไปทิศทางใดระหว่างเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือเชิงธุรกิจ อุตสาหกรรม ส่วนตลาดค้าชายแดนเพิ่งเริ่มต้น การลงทุนใหญ่อย่างโครงการคมนาคมเป็นเครื่องบ่งชี้ว่ากาญจนบุรีกำลังเติบโต ที่สำคัญนักลงทุนเดินทางเข้า-ออกในจังหวัดกาญจนบุรีจำนวนมาก นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยว รวมถึงเมืองการเกษตรแล้ว กาญจนบุรีจะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในอนาคต”

ที่ดินพุ่ง 10 ล้านรับด่านเปิด

“นายสรรเพชร ศลิษฏ์อรรถกร” ประธานกรรมการ บริษัท ยงเฮ้าส์ จำกัด และกลุ่มยงกรุ๊ป จ.กาญจนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การค้าด่านพุน้ำร้อน ที่จะเปิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ปัจจุบันมีนักลงทุนหลายรายเริ่มเข้าไปลงทุนในพื้นที่แล้ว โดยราคาที่ดิน ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อไร่

ทั้งนี้ ทางฝั่งไทยได้เริ่มมีการก่อสร้างขึ้นหลายอย่าง อาทิ ร้านค้า โรงแรม รีสอร์ต ส่วนทางฝั่งของประเทศเมียนมานั้นยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนว่าบริเวณทวายจะพัฒนาในรูปแบบจะเป็นนิคมอุตสาหกรรม หรือจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ทั้งนี้ หากยังไม่มีผู้มาลงทุนด้านอุตสาหกรรม บริเวณดังกล่าวมีทะเลอันดามันที่สวยงามสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้

หากโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีแล้วเสร็จสมบูรณ์ตลอดเส้นทางจะเพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวใน จ.กาญจนบุรีมากขึ้น และสามารถเดินทางเชื่อมไปสู่เมียนมาได้

หอฯชี้แค่ตีปี๊บ-ไม่คึกคัก

ขณะเดียวกัน “นายบุญชู วิวัฒนาทร” ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประเด็นสำคัญในการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ด่านพุน้ำร้อนนั้นมีหัวใจสำคัญ คือ เรื่องที่ดิน เพราะส่วนใหญ่เป็นป่า เป็นพื้นที่ของทหารและราชพัสดุ ไม่มีเอกสารสิทธิในการซื้อขาย

“ตอนนี้มีเพียงการสัญจรไปมาที่คึกคักอยู่ฝั่งเมียนมาเพราะมีบ่อนกาสิโน ขณะที่ฝั่งไทยยังไม่มีนายทุนจากที่ไหนมาซื้อที่ดินหรือหาทำเลลงทุน ที่ข่าวออกมาว่าที่ดินราคาพุ่งแทบจะไม่มี เพราะที่ดินไม่สามารถซื้อขายกันได้ เหมือนเราตีปี๊บไปก็เหนื่อยเปล่า”

เขต ศก.กาญจน์ติดส่งที่ไม่ครบ

ยกตัวอย่างโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี บริเวณบ้านพุน้ำร้อนซึ่งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ได้เห็นชอบให้บริษัท พร้อมเพรียงชัยก่อสร้าง จำกัด ได้รับสิทธิในการพัฒนาในพื้นที่ 2,979 ไร่ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 นั้น ถึงปัจจุบันกรมธนารักษ์สามารถส่งมอบพื้นที่ให้บริษัทได้ประมาณ 1,000 ไร่ ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินโครงการตามแผนที่วางไว้ได้

“ภาครัฐฝั่งไทยยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ทั้งที่ภาครัฐควรจะสนใจมากกว่านี้ หากจัดการเรื่องที่ดินในการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ ภาคอุตสาหกรรมจะเกิดความเจริญตามมา ฉะนั้น เรื่องส่งมอบที่ดินต้องจบให้ได้ก่อน”

ด้านผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้ลงพื้นที่สำรวจโครงการด่านศุลกากรพุน้ำร้อน ซึ่งเป็นด่านพรมแดนในการดูแลของด่านศุลกากรสังขละบุรี ที่ใช้งบประมาณก่อสร้างรวมกว่า 711,888,000 บาท ปัจจุบันก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่บริเวณโดยรอบยังไม่เห็นการลงทุนหรือการก่อสร้างโครงการอื่นเพิ่มเติมในฝั่งไทย มีเพียงร้านค้าชุมชนและความคึกคักของการเดินทางเข้า-ออกผ่านด่านเท่านั้น

ขณะที่ฝั่งเมียนมาเริ่มมองเห็นการก่อสร้างในลักษณะโรงแรมอย่างชัดเจน แม้ถนนสัญจรจะยังคลุ้งไปด้วยฝุ่นดินแดงต่างจากฝั่งไทย

เปิดเต็มระบบกลางปี’63

ด้านเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน เตรียมระบบการปฏิบัติงานด่านศุลกากรบ้านพุน้ำร้อน คาดเริ่มทดลองการปฏิบัติงานกลางปี’63

“นายประพันธ์ จันทร์ไทยศรี” นายด่านศุลกากรสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมที่จะเปิดดำเนินการด่านศุลกากรบริเวณบ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ด้วยงบประมาณกว่า 711,888,000 บาท

โดยอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องมืออุปกรณ์ในการใช้งานต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และส่วนควบคุมโรค ซึ่งจะประจำที่อาคารผู้โดยสาร อาคารตรวจสินค้า รวมถึงส่วนอาคารอื่นที่จะมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรหน่วยงานที่เกี่ยวกับเรื่องด่านกักกันพืช กักกันสัตว์ อาหารและยา เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานการเข้า-ออก มาตรฐานการตรวจสินค้า ทั้งนี้ คาดว่าด่านดังกล่าวจะสามารถเปิดดำเนินพิธีการศุลกากรได้เต็มรูปแบบประมาณกลางปี 2563

“เมื่อด่านศุลกากรดำเนินการเต็มรูปแบบแล้ว พื้นที่นี้จะเป็นประตูการค้าแห่งใหม่ ทำให้จังหวัดกาญจนบุรีมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น รวมถึงการขนส่งสินค้าที่จะมาใช้จุดนี้เป็นโลจิสติกส์ขนถ่ายสินค้าจากด้านตะวันออกสู่ตะวันตกเพื่อรองรับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย จะส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ ไปจนถึงเศรษฐกิจฐานราก การซื้อมาขายไปในพื้นที่จะเกิดขึ้น และหากมีการลงทุนในเรื่องของอุตสาหกรรมการผลิตหรือการนำเข้า-ส่งออกจะเป็นการสร้างงานในพื้นที่ด้วย หวังว่าพื้นที่นี้จะเป็นการรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะเวลาไม่กี่ปีนี้”


ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างภูมิภาค และภูมิภาคอื่นนอกจากอาเซียน ซึ่งการก่อสร้างด่านศุลกากรจะเป็นการรองรับสินค้านำเข้า-ส่งออกจากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จ.กาญจนบุรี และเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ประเทศเมียนมาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้เกิดการค้าการลงทุน ทั้งจากนักลงทุนในพื้นที่ และนักลงทุนต่างชาติ จะส่งผลให้การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคเติบโตสูงขึ้น และมีนัยในการที่จะพัฒนาประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในอาเซียนและในระดับภูมิภาคนี้