นายวโรดม ปิฎกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ Covid-19 มาอย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิด เนื่องจากประเมินสถานการณ์ครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดเชียงใหม่ถึงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยหากประเมินจากผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (GPP) มูลค่า 231,726 ล้านบาท ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นภาคบริการประมาณร้อยละ 70 หรือประมาณ 1.5 แสนล้านบาท รองลงมาคือกาคเกษตรร้อยละ 20 ที่เหลือเป็นภาคอุตสาหกรรมประมาณร้อยละ 10
จังหวัดเชียงใหม่ถือว่ามีรายได้หมุนเวียนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่มาจากนักท่องเที่ยวกว่า 12 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวไทยร้อยละ 70 เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศร้อยละ 30 คิดเป็นประมาณ 3 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า 2 ล้านคน เมื่อนักท่องเที่ยวจีน และต่างประเทศลดลงตามตัวเลขสถิติ มีจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารลดลงจำนวนมาก เปรียบเทียบตั้งแต่ปี 2561 -2563 มีนักท่องเที่ยวที่มายังสนามบินเชียงใหม่ 157,558 คน แต่ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์เหลือเพียง 52,693 คน ขณะที่เที่ยวบินตรงไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงก็ประกาศหยุดบินในช่วงนี้ถึงเดือนเมษายนที่ตรงกับเทศกาลท่องเที่ยวของเชียงใหม่ด้วย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นายวโรดม กล่าวว่า การประเมินผลกระทบและหาแนวทางแก้ไขจึงต้องวิเคราะห์ลึกถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก โรงแรม ที่พักแรม ร้านอาหาร บริการขนส่ง ที่ยังเชื่อมโยงไปถึงธุรกิจต้นน้ำ อาทิ ธุรกิจเกษตร ปศุสัตว์ ที่เป็นวัตถุดิบหรือสินค้าให้กับร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และโรงแรม ที่พักต่างๆ ซี่งหอการค้าฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ผลักดันและร่วมกันหาแนวทางแก้ไข
หอการค้าฯ คาดว่ากลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการที่รายได้นักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวจีนลดลงมากที่สุด ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจที่พักแรม ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจขนส่ง รวมแล้วอาจจะถึง 4-5 หมื่นล้านบาทที่จะหายไปจากระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของจังหวัดเชียงใหม่
โดยเมื่อเร็วๆนี้ หอการค้าฯ ได้เชิญภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมประชุมหารือกับผู้อำนวยการอาวุโส และผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นลูกหนี้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ตลอดจนประชาชนทั่วไป มีเงินหมุนเวียนไว้ใช้จ่ายและทำธุรกิจต่อไปได้ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งล่าสุดทุกธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือออกมาแล้ว ขณะเดียวกันหอการค้าฯจะได้ร่วมกับ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จัดโครงการ “ธนาคาร SME เพื่อการท่องเที่ยว” ในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2563 เวลา 13.00 น ที่สำนักงานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและภาระหนี้ให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต่อไป