มช.พัฒนาแอปพลิเคชัน “Thai Air Quality” พยากรณ์ PM2.5 ครอบคลุมทั่วไทย-CLMV

นักวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาแอปพลิเคชัน “Thai Air Quality” พยากรณ์คุณภาพอากาศล่วงหน้าสูงสุดได้ 3 วัน ครอบคลุมทั่วประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV สามารถใช้เป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจ เตรียมตัว เตรียมการป้องกันล่วงหน้า

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชาคริต โชติอมรศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ภูมิภาคเพื่อการศึกษาด้านภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การตรวจวัดข้อมูลฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพนับว่ามีความสำคัญมากในการวางแผนป้องกัน แก้ไข และควบคุมปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจำนวนสถานีตรวจวัดที่มีอยู่ในปัจจุบันถือว่ายังมีจำกัดและเพิ่งเริ่มมีการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

สำหรับปริมาณความเข้มข้นของ PM2.5 ถือว่ามีความเสี่ยงอย่างมากต่อสุขภาพของประชนโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ขณะที่การติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบถาวรและหน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่มีข้อจำกัดในด้านการลงทุนและดำเนินการสูงและต้องใช้เวลาในการดำเนินการ อีกทั้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดแบบถาวรและแบบเคลื่อนที่สามารถประเมินคุณภาพอากาศได้เฉพาะจุดที่ตั้งสถานีและรายงานคุณภาพอากาศในเวลาปัจจุบันซึ่งทำให้เป็นข้อจำกัดในการแจ้งเตือนประชาชน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชาคริต กล่าวว่า จากปัญหาและข้อจำกัดดังกล่าว สำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้สนับสนุนทุนวิจัยในการพัฒนาแบบจำลองควบคู่อุตุนิยมวิทยา-เคมี WRF-Chem เพื่อให้เป็นระบบแบบจำลองการพยากรณ์คุณภาพอากาศแบบเวลาจริง (real-time forecast) ล่วงหน้า 3 วัน ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดผลการพยากรณ์สามารถใช้เป็นข้อมูลในการประเมินสภาพปัญหาในพื้นที่ซึ่งไม่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศและสามารถใช้ในการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควันและเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ โดยผลการพยากรณ์คุณภาพอากาศถูกนำเสนอผ่านแอปพลิเคชัน “Thai Air Quality” ทั้งบนระบบ iOS และ Android ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และผ่านทางเว็บไซต์ของศูนย์ภูมิภาคเพื่อการศึกษาด้านภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม https://rcces.soc.cmu.ac.th/airquality และ Facebook Page ตาม QR code

ทั้งนี้ ผลการพยากรณ์ของแอปพลิเคชัน “Thai Air Quality” ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอื่นๆของประเทศไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนามและเมียนมาร์บางส่วน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาและช่วยกันหรือให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ได้มากขึ้น