“เชียงราย” ขู่ใช้กฎหมายจัดการ”ผีน้อย”หลังติดโพล1ใน3

วันนี้ (6 มี.ค. 63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ณ ห้องประชุมธรรมลังกา ศาลากลาง จ.เชียงราย ครั้งที่ 1 โดยเน้นไปที่กรณีไวรัสโควิด-19 โดยทางจังหวัดมอบหมายให้ นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นผู้ควบคุมดูแลและได้ประกาศตั้งศูนย์เชื่อมโยงโรคติดต่อทั้งระดับจังหวัดและแยกไปทั้ง 18 อำเภอเพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจสอบข่าวลือหรือเฟคนิวส์เพื่อเข้าไปจัดการได้ทันท่วงที

ขณะที่มีการแจ้งข้อมูลด้วยว่าปัจจุบัน จ.เชียงราย มีผู้เข้าเกณฑ์ไวรัสโควิด-19 จำนวน 38 รายผลการตรวจยืนยันว่าไม่มีผู้ใดมีเชื้อ ส่วนการคัดกรองทั้งที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ด่านพรมแดนทั้ง 3 อำเภอคือแม่สาย เชียงแสน และเชียงของ ตรวจคัดกรองไปแล้วจำนวน 25,842 รายมีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนเพียงรายเดียวและไม่พบเชื้อแต่อย่งใด

“จ.เชียงราย เป็นจังหวัดที่มีผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือผีน้อยติด 1 ใน 3 จังหวัดคือเชียงราย เชียงใหม่ และภูเก็ต แต่ที่เชียงรายตรวจพบตัวบุคคลจึงเข้าไปจัดการได้ทันท่วงที และนับจากนี้จะมีการใช้มาตรการที่เข้มข้นโดยจะมีกาประกาศจากคณะกรรมการเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะเพื่อป้องกันกรณีกลุ่มผู้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโดยจะใช้ลำดับมาตรการคือการประชาสัมพันธ์”

และขอความร่วมมือให้มีการกักโรคไว้อย่างน้อย 14 วัน แต่หากพบว่ายังไม่เชื่อฟังก็จะใช้มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวของเข้าไปจัดการ หรือหากสถานการณ์รุนแรงก็จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาช่วยสนับสนุนด้วย ทั้งนี้เพราะ จ.เชียงราย มีประชากรกว่า 1.3 ล้านคนซึ่งมีจำนวนมาก

ด้านนายแพทย์ศุภเลิศ เนตรสุวรรณ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวถึงกรณีมีผู้เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ว่า จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวได้ผ่านการคัดกรองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาแล้วและไม่ได้เป็นป่วยกระนั้นก็ได้เข้าสู่มาตรการกักโรคเป็นเวลา 14 วันไปแล้ว

ทั้งนี้ การเตรียมการในพื้นที่กรณีพบมีการติดเชื้อก็ได้จัดเตรียมห้องแยกผู้ป่วยกักโรคเอาไว้ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จำนวน 20 ห้อง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลจำนวน 55 ห้อง โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่จำนวน 10 ห้อง และโรงพยาบาลเอกชนจำนวน 9 ห้อง และหากสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้นก็เตรียมสถานที่ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เอาไว้อีกจนำวน 20 เตียง และ 100 เตียงตามลำดับ นอกจากนี้หากยังรุนแรงมากขึ้นก็ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนทุกแห่งเข้าดำเนินการทั่วจังหวัดต่อไป