เชียงใหม่ปิดสถานประกอบการ 14 วัน หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 มีนาคม 2563) จังหวัดเชียงใหม่ได้แถลงข่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัส COVID-19 อันเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยพบการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจ การคมนาคม การท่องเที่ยว และมีความหนาแน่นของประชากรสูง ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว การควบคุมโรคอย่างทันเวลาและจำกัดการชุมนุมของประชาชน เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายไปในวงกว้าง

ทั้งนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง อาศัยอำนาจตามความมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ออกมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อ COVID-19 ดังนี้คือ ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม ถึงวันที่ 1 เมษายน 2563 ได้แก่ สถานบริการ และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ, สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ อาทิ ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม, ร้านคาราโอเกะ, ร้านเกม, สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย (ฟิตเนส), สถานประกอบกิจการโรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร), โซนอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับเด็กเล่นในห้างสรรพสินค้า,ตลาดถนนคนเดิน

นอกจากนี้ ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ได้แก่ สนามมวย, สนามม้า และสนามชนไก่ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีตัวเลขผู้มาเข้ารับการตรวจหาเชื้อสะสมรวม 374 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย ก่อนหน้านี้

และล่าสุดมีผู้ป่วยเพิ่มใหม่อีก 1 ราย และอยู่ระหว่างรอผลแล็ปยืนยันอีก 5 ราย ซึ่งเป็นเคสที่ผู้ป่วยเข้ามาจากพื้นที่อื่น โดยมีผู้ใกล้ชิดที่สัมผัสผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังแบ่งเป็นความเสี่ยงสูง 20 ราย และความเสี่ยงต่ำ 20 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสารคัดหลั่ง และต้องกักตัวเอง 14 วัน

ทั้งนี้ ในสถานการณ์ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ถือว่ามีความเสี่ยง ที่อาจเป็นรองกรุงเทพฯ เนื่องจากเชียงใหม่มีการเดินทางเข้า-ออกของผู้คนจำนวนมาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องงดการเคลื่อนไหวในช่วงระยะ 2 สัปดาห์ เพื่อความปลอดภัย