วิกฤตหมอกควัน PM 2.5 ของภาคเหนือปีนี้ทำสถิติสูงสุดมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งที่ทุกฝ่ายมีการเตรียมความพร้อม แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เด็ดขาด
ดัชนีจุดความร้อน (hotspot) พุ่งขึ้นต่อเนื่อง ตัวเลข ณ วันที่ 15 มีนาคม 2563 โดยเฉพาะพื้นที่เมียนมามีมากถึง 3,683 จุด สปป.ลาว 1,538 จุด ขณะที่ในประเทศไทยมีจุดความร้อนจากทางดาวเทียม Suomi NPP (VIIRS) พบจุดความร้อน หรือ hotspot ทั้งประเทศรวม 997 จุด โดยพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พบจุดความร้อนมากที่สุดถึง 510 จุด ซึ่งพบมากที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 196 จุด รองลงมาเป็นจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 168 จุด และจังหวัดตาก จำนวน 104 จุด
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 เมษายน 2567
- หวยงวด 16 เมษายน ถ่ายทอดสด ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งฯ วันนี้ (16 เม.ย. 67)
นับเป็นความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสของประชาชนในภาคเหนือห้วงเวลานี้ ที่นอกจากต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว ยังต้องป้องกันตัวจากพิษหมอกควันที่สุมและกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ มีผลกระทบสูงมากต่อเมืองเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน ในระดับวิกฤต ถึงขั้นติดอันดับโลก
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้นำเสนอประเด็นตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ปัญหาหมอกควันได้ปกคลุมทั่วภาคเหนือของประเทศไทยในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี บางปีมาเร็วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และกินเวลายาวนาน แต่ปีนี้ (2563) หมอกควันมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นปีที่ถือว่าวิกฤตสูงสุด มีปฏิกิริยาที่ส่งผลกระทบในวงกว้างรุนแรงอย่างมีนัย มีการประมวลหลายสาเหตุมาอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในหลาย ๆ สาเหตุที่สำคัญคือ การส่งเสริมการปลูกพืชเชิงเดี่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงการขยายการลงทุนไปทำเกษตรพันธสัญญาในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะรัฐฉานของเมียนมา ส่งผลให้ปัญหาหมอกควันเพิ่มสูงขึ้นแปรผันตามราคาของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
นางสาวผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันพื้นที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา มีการปลูกพืชเกษตรหลายชนิด ด้วยลักษณะภูมิประเทศมีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เป็นแหล่งทำการเกษตรแหล่งใหญ่ทั้งการปลูกถั่ว พริก พืชผัก ที่ส่งเข้ามาขายในประเทศไทยรวมถึงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีการส่งเสริมการปลูกแบบเกษตรพันธสัญญา กล่าวได้ว่า พืชเกษตรเกือบทุกชนิดเป็นสาเหตุของการเกิดหมอกควันปกคลุมภาคเหนือ เนื่องจากมีการเผาพื้นที่เกษตรหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อเตรียมแปลงปลูกรับฤดูฝน โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีการปลูกเพิ่มมากขึ้นในหลายเมืองของเมียนมาที่มีพรมแดนติดกับจังหวัดเชียงรายและอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ส่งผลให้หมอกควันในปีนี้วิกฤตรุนแรง
“ขณะนี้ทางการจีนปิดพรมแดนการค้า ทำให้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีการส่งเสริมปลูกในเมียนมาจากเมืองมูเซ รัฐฉาน นำเข้าผ่านไทยแทน ก่อนที่จะนำส่งต่อไปยังจีน โดยนำเข้าเส้นทางพรมแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และผ่านทางด่านแม่สาย ซึ่งมีปริมาณผลผลิตข้าวโพดจากเมียนมาที่จะส่งไปขายที่จีนตอนใต้เป็นจำนวนมาก”
นางสาวผกายมาศกล่าวว่า ปัญหาหมอกควันไม่สามารถแก้ไขได้เพียงประเทศเดียว เพราะเป็นหมอกควันข้ามแดน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทย-เมียนมา รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ของเมียนมาที่มีบทบาทสำคัญในภาคการเกษตร ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ทางหอการค้าจังหวัดเชียงรายจะหารือร่วมกับหอการค้ารัฐฉานถึงแนวทางแก้ปัญหานี้ โดยแนวทางสำคัญคือ การปรับเปลี่ยนไปสู่การเกษตรที่ยั่งยืน ลดการเผา
ทั้งนี้ มีรายงานจากประเทศเมียนมาคาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวโพดอาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นถึง 6% เนื่องจากมีการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่อาศัยน้ำฝนธรรมชาติ และประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการข้าวโพดเพิ่มมากขึ้น โดยเมียนมามีผลผลิตข้าวโพดประมาณ 850,000 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน โดยผลผลิตร้อยละ 30-35 ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ และร้อยละ 5-6 ใช้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ข้าวโพดสำหรับการแปรรูปและแอลกอฮอล์ และคาดว่าจะเพิ่มถึง 1 ล้านตัน เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมเริ่มหันมาใช้ข้าวโพดเป็นส่วนประกอบอาหารสัตว์แทนข้าวหักเพิ่มขึ้น
ขณะที่สถานการณ์การเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานข้อมูลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รวมรุ่น ปีเพาะปลูก 2561/62 เนื้อที่เพาะปลูกรวมทั้งประเทศ 6,929,904 ไร่ ซึ่งภาคเหนือมีเนื้อที่เพาะปลูกรวมมากที่สุดถึง 4,682,925 ไร่ รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,469,117 ไร่ และภาคกลาง 777,862 ไร่
โดย 10 อันดับของจังหวัดในภาคเหนือที่มีเนื้อที่เพาะปลูกมากที่สุด อันดับ 1 คือ จังหวัดน่าน 679,196 ไร่ อันดับ 2 จังหวัดตาก 579,348 ไร่ อันดับ 3 จังหวัดเชียงราย 386,954 ไร่ อันดับ 4 จังหวัดนครสวรรค์ 298,460 ไร่ อันดับ 5 จังหวัดแพร่ 295,969 ไร่ อันดับ 6 จังหวัดพิษณุโลก 294,358 ไร่ อันดับ 7 จังหวัดอุตรดิตถ์ 205,991 ไร่ อันดับ 8 จังหวัดลำปาง 201,048 ไร่ อันดับ 9 จังหวัดพะเยา 197,104 ไร่ และอันดับ 10 จังหวัดเชียงใหม่ 183,128 ไร่
ปัจจัยการปลูกพืชเชิงเดี่ยวไม่ใช่เฉพาะ “ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” ยังมี “อ้อย” ที่ส่งผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศทางภาคเหนือตอนล่าง ที่จะต้องมีการควบคุมติดตามป้องกันอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ไม่เช่นนั้น “ควันพิษ” ภาคเหนือจะเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขโดยกลไกภายในประเทศได้ในอนาคต