ยุวดี อมรเวชยกุล ดัน “โอริสา” บอดี้โลชั่น OTOP โฮมเมดโกอินเตอร์

การค้าในปัจจุบันค่อนข้างดุเดือด และมีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการหลากหลายแขนงต่างผลิตสินค้าออกมาสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ในกลุ่มของสินค้าโอท็อปก็ไม่น้อยหน้า ผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนหลายตัวขึ้นเทียบกับแบรนด์ใหญ่ จนเรียกได้ว่าพัฒนารุดหน้าไปอย่างมาก

เช่นเดียวกับ “โอริสา (OLISA)” สินค้าแบรนด์ภูธร ซึ่งทำผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงความงาม ที่ก้าวจากผลิตภัณฑ์ OTOP โฮมเมดไปเฉิดฉายกลายเป็นสินค้าขึ้นเครื่องของการบินไทยชิ้นแรกของจังหวัดมหาสารคาม “ยุวดี อมรเวชยกุล” ประธานกลุ่มฮักสาโฮมเมด จ.มหาสารคาม ตัวแทนกลุ่มในการทำสินค้า โอริสา (OLISA) เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นในการทำสินค้าผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงความงามออกจำหน่ายเป็นโอท็อปโฮมเมดนั้น มีที่มาจากเมื่อ 3 ปีก่อน ทางกลุ่มได้นำข้าวอินทรีย์จากบ้านหนองหิน ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผลิตข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ มีพื้นที่ปลูกรวมกว่า 800 ไร่ มาทดลอง โดยนำน้ำมันรำข้าวมาทำเป็นบอดี้โลชั่น และสบู่เหลวอาบน้ำช่วงแรกทำใช้เอง จากนั้นได้ส่งให้คนรู้จักทดลองใช้ ปรากฏว่าใช้แล้วได้ผลดี

โดยประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวอ่อนโยนไม่มีอาการแพ้ เป็นต้น เพราะไม่ใส่สารกันเสีย ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติล้วน ๆ เป็นน้ำมันรำข้าวที่ทรงคุณค่า ผลิตจากวัตถุดิบข้าว 5 สายพันธุ์ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวมะลิแดง ข้าวหอมนิล ข้าวทับทิมชุมแพ และข้าวหอมใบเตย ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดมหาสารคาม ที่หอมกลิ่นใบเตย อุดมด้วยวิตามินอี โอเมก้า 3, 6, 9 และสารโอลิซานอล ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและชะลอริ้วรอยแห่งวัย ใช้ชำระล้างและบำรุงได้ผลทุกสภาพผิว ที่สำคัญ สบู่เหลวจากน้ำมันรำข้าวยังปราศจากสารกันเสีย เพื่อคงคุณค่าบำรุงจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

ต่อมาได้มีการทดลองผลิตเพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์ โอริสา (OLISA) โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ได้ให้คำแนะนำในการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน พร้อมกับสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย และสนับสนุนด้านการตลาดไปด้วย

“ช่วงแรกเปิดตัวเน้นวางตลาดที่ทางพัฒนาชุมชนจัดให้ อาทิ งานโอท็อปซิตี้ (OTOP City) งานโอท็อปมิดเยียร์ เป็นต้น รวมทั้งตลาดในท้องถิ่นและกลุ่มจังหวัด ปรากฏว่าสินค้าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ซึ่งต้องเพิ่มการผลิตจนตอนนี้ใช้วัตถุดิบน้ำมันรำข้าวมากถึงประมาณเดือนละ 700 กิโลกรัม เพราะนอกจากเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงความงามที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติแล้ว ทางด้านราคาขายเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันเราขายถูกกว่าและปลอดภัยต่อผู้ใช้”

สำหรับช่องทางการตลาดปี 2563 กลุ่มฮักสาโฮมเมด จ.มหาสารคาม ได้เริ่มส่งสินค้าขึ้นขายบนเครื่องสายการบินไทย รวม 3 ผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย สบู่น้ำมันรำข้าว บอดี้โลชั่น สบู่น้ำมันรำมะพร้าว โดยเริ่มส่งสินค้ามาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากได้รับการคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของจังหวัดมหาสารคาม ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหารสำหรับขายบนเครื่องสายการบินไทย ส่วนยอดขายไม่ได้มีการตั้งเป้าไว้เนื่องจากเป็นสินค้าโฮมเมด แต่หากเทียบกับช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันยอดขายเพิ่มขึ้นมากถึง 100%

นอกจากนี้ ยังเปิดขายสินค้าในตลาดออนไลน์ ถือว่าเป็นตลาดที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะยอดลูกค้าสั่งสินค้าซ้ำมีจำนวนมาก

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ คณะมะ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายสินค้าโอท็อปของมหาสารคามเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาท และสำหรับปี 2563 ได้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมไว้ที่ 15% ซึ่งไม่น่าจะเกินความสามารถ

ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมอาจได้รับผลกระทบจากหลาย ๆ ด้าน อาทิ การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นต้น อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลงบ้าง แต่ยังมั่นใจว่ายอดขายสินค้าที่ขายดีตลอดกาล โดยเฉพาะเสื่อกกบ้านแพง ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก รวมแล้วมีสินค้ามากมายที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดมหาสารคามเฉลี่ยหลายร้อยล้านบาทต่อปี ฉะนั้นจึงมั่นใจว่ายอดขายในปี 2563 น่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพัฒนาชุมชนยังให้การส่งเสริมทางด้านการตลาดตลอดปีเช่นเดียวกันกับปีที่ผ่านมา